ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์2021 ที่โซนี่ไทยเริ่มเปิดจองเครื่อง Playstation5 หลังจากที่ทางโซนี่ได้เริ่มขายให้กับประเทศโลกที่หนึ่งไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2020
เราก็ด้วยความที่ขนาดบัตรคอนยังกดในเน็ตไม่ทัน ก็ไม่ต้องไปหวังอะไรกับบอตที่พวกสายรีเซลมาแย่งกดแล้ว รอวอคอินหน้าร้านเอาปลายปีละกัน บวกกับเครื่อง PS4 เครื่องเก่าเพิ่งอายุได้แค่ 2ปีเศษๆ
แต่อยู่ๆพี่ที่ทำงานที่กดเครื่องศูนย์ไทยได้ในลอต2ก็ยื่นข้อเสนอขายเครื่องต่อให้ในราคาศูนย์ที่ 16990 บาท หลังจากโดนป้ายยามาร่วมสองสามวัน จนกระทั่ง
สัญญาปีศาจซื้อขายเครื่องPS5ก็เป็นอันจบลงในหนึ่งสัปดาห์
ก็แบบไหนๆก็โบนัสออกแล้วง่ะ ขอใช้ละกันนะ
อารัมภบทกันมาพอละ พอได้เครื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมและได้สัมผัสมาแล้วร่วมครึ่งเดือน ก็ได้สำเหนียกว่าควรรีวิวเครื่องจริงจังได้แล้วโว้ย!

ความรู้สึกแรกตอนได้รับกล่องมาคือเชี้ย กล่องใหญ่จังวะ ละก็หนักชิบเป๋งเลย
Unboxing
แกะกล่องออกมาก็จะเจอกับเครื่องคอนโซลและอุปกรณ์เสริม:
- Playstation 5 Console (แบบมีช่องใส่แผ่น)
- Dualsense Wireless Controller
- แท่นตั้งเครื่อง
- สาย HDMI 2.1
- AC Adapter (สายไฟ)
- USB Type-C Cable
- คู่มือการใช้งานและใบประกัน
Hardware Feature (Only Disk Edition)

Basic Specifications
| Hardware | Spec |
|---|---|
| CPU | AMD Zen 2-based, 8-Cores 16-Threads up, to 3.5GHz |
| GPU | AMD RDNA 2-based 36 CUs up to 2.23 GHz, 10 Teraflops |
| RAM | 16GB GDDR6, Bandwidth – 448GBps |
| Storage | 825GB NVMe SSD |
| Expandable | M.2 PCle SSD Slot / External HDD or SSD over USB 3.1 |
| Optical Drive | 4K Blu-ray |
| Display | HDMI 2.1 |
| PSU | 350W |
| Wireless | Wi-Fi 6 (ax), Bluetooth 5.1 |
| Sound | Tempest 3D AudioTech |
| Dimension | 390 x 104 x 260 |
| Warranty | 1 year (ถ้าลงทะเบียนกับเว็บโซนี่ได้เพิ่มอีก 90 วัน) |
| Price | 16990THB |
ด้วยการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ที่มากขึ้นจาก PS5 บวกกับรูปทรงดีไซน์ขาวดำเว้าโค้งของเครื่องอันทำให้เครื่องมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักถึง 4.5kg (เรียกได้ว่าหนักสองเท่าของ PS4slim ที่มีซะอีก แบกทีกล้ามขึ้นแม่ย้อย)
ในส่วนของการวางเครื่อง แท่นวางถูกออกแบบมาให้วางได้สองแบบคือแบบตั้งกับแบบนอน
1) แบบตั้ง (ตามรูปข้างบน): ต้องหมุนแท่นวางแล้วประกอบกับน็อตที่ฐานเครื่อง
2) แบบนอน: ตรงซี่ช่องระบายความร้อนหลังเครื่องจะมีสัญลักษณ์ให้เอาขาเกี่ยวแท่นวางเข้าไปได้ง่ายเลยๆ
ซึ่งนี่ก็เลือกวางแบบตั้งเพราะที่น้อย และจะได้เก็บเข้าใต้โต๊ะได้ (ไม่ได้ต่อกับทีวี วางใต้โต๊ะคอม)
ส่วนพอร์ตคล้ายของ PS4 มี LAN, Audio, USB, AC, HDMI ตั่งต่าง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปที่ปุ่มเปิดปิดกับดีดแผ่นที่ทำมาเป็นปุ่มนูนขึ้นมาแล้ว บวกกับเพิ่ม USB-C มาหน้าเครื่องและช่อง Kensington Lock
อีกอย่างที่ว้าวมากๆคือหนึ่ง กิมมิคพื้นผิวด้านในมีสัญลักษณ์จอยทั้งสี่ทั่วพื้นที่ และสอง มีการเปลี่ยนไฟแสดงสถานะจากบนปุ่มเปิดเครื่องบน PS4 มาเป็นมีแสงที่ขอบเครื่องดำๆแทน มัน สวย มาก!!!!!!
พอร์ต USB ที่ว่านี่มีสองที่ หน้าเครื่องกับหลังเครื่อง หลังเครื่องไว้ต่อ External HDD จาก PS4 หน้าเครื่องไว้จั๊มป์แฟลชไดร์ฟเวลาโอนรูป

แต่เอนี่เวย์ ก็ยังมีจุดข้อเสียก็คือผิวตรงกลางที่เป็นสีดำเป็นรอยโคตรง่าย ลองเอานิ้วแตะคือรอยนิ้วมือชัดมาก ต้องเช็ดบ่อยๆเลยทีเดียว
Cooling Spring

อีกสิ่งที่นอกจากเครื่องจะใหญ่เพราะอัดแน่นไปด้วยฮาร์ดแวร์คุณภาพแล้ว ยังมีพัดลมระบายความร้อนที่ใหญ่มากๆ ด้วยใช้วิธีการดูดอากาศเย็นเข้าจากซี่ด้านหน้าเครื่องไปลงฮีตซิงค์แล้วระบายออกทางหลังเครื่อง นั่นก็ทำให้เมื่อใช้งานเครื่องมันเลยออกมาเงียบมาก เสียงพัดลมแทบไม่มี และด้วยมีการใช้ฮีตซิงค์แบบ Liquid Metal ทำให้การระบายความร้อนทำงานได้ดีทีเดียว //แต่เดินผ่านหลังเครื่องก็แอบอุ่นใช้ได้ ต้องวางในที่โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก //
GPU Jungle

การมาพร้อมกับ GPU ร่วมกับ CPU อันทรงพลังก็เป็นการยกระดับกราฟิกที่เคยเทพมาแล้วใน PS4 Pro ให้เทพขึ้นไปอีก ทั้งการรันเกมที่ลื่นไหลในระดับ 60FPS ที่ความคมชัด 4K (เขาบอกว่าได้ถึง 8K 120FPS 120Hz เลยว่าซั่น) พร้อมทั้งรองรับฟีเจอร์ Ray Tracing ด้วย!!! แล้วถ้ายิ่งไปต่อกับ TV ที่รองรับ HDR ด้วยอีกนี่แหม่ เปิดโลกเปิดประตูสู่สวรรค์ที่แท้ทรู
(มีเลือกโหมดได้ด้วยว่าเอาแบบลื่นหรือภาพสวย ระหว่างเน้น performance ที่เล่นลื่นๆจัด 60FPS แต่จำกัดที่ 1080p No RT หรือภาพสวยจัดๆ 4K RT จัดเต็มแต่ล็อคที่ 30FPS)
แต่กระนั้นด้วยเราเล่นแบบต่อจอ Portable ที่พอร์ตออกมาได้สูงสุดแค่ 1080p และไม่รองรับ HDMI2.1 เลยเปิด HDR ไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ถ้ามีโอกาสลอง(และไม่ขี้เกียจย้ายเครื่อง)ก็อยากจะลองเล่นกับทีวีจริงๆซักรอบ
ส่วนเรื่อง Performance ที่ได้จากการเล่นจริงๆทั้งแบบ PS4 และ PS5 ผลที่ได้ออกมาเหมือนกันคือสามารถเล่นแบบลื่นจัดๆ ลื่นหัวแตก เฟรมเรตไม่ตก ภาพไม่กระตุก (จำได้ว่าเล่น Tomb Raider บน PS4 มีกระตุกนิดหน่อยเวลามีซีนไล่ล่า แต่พอเปลี่ยนเล่น PS5 คือไหลลื่นวิ่งสบาย ลื่นจนกะจังหวะพลาด5555555)
ในส่วนของงานกราฟิก ถ้าให้เทียบกับ PS4 Pro น่าจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าเทียบกับ PS4 Slim ที่มีก็ถือว่าเป็นการอัพเกรดกราฟิกขึ้นไปได้พอสมควร ดึงศักยภาพออกมาได้แบบเกือบเท่าตัว (ก็รุ่นสี่มันรุ่นประหยัดก็ได้แค่นั้นแหละ)
SSD Speedway

หนึ่งในฟีเจอร์เด็ดของ PS5 จะไม่พูดถึง SSD ก็คงจะพลาดมากๆ ด้วยการดึงขุมพลังร่วมกับ CPU ผสานกับระบบ Integrate I/O ซึ่งนั่นก็ทำให้การทำงานของเครื่องและการโหลดเกมไวจัดๆ ไวแบบกระพริบตาแป๊บเดียวเกมโหลดเสร็จแล้ว ขนาดที่ว่าทดลองกับเกม Spider-man Miles Morales ก็คือไม่ต้องมีซีนขี่รถไฟระหว่างรอโหลดฉากก็มาแล้ว หรือจะลองกับ Watch Dogs Legion ที่ถ้าเล่นในเวอร์ชั่น PS4 การโหลดเกมหนึ่งครั้งอาจกินเวลาถึง 20-30 วินาที แต่กับ PS5 ใช้เวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น!!
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ถึงแม้ความจุตั้งต้นจะมาที่ 825GB แต่พอเอาเข้าจริงดันใช้ได้แค่ 600 กว่า (ไม่ต่างอะไรกับเครื่อง Slim ตอนซื้อครั้งแรกเลย ฮ่วย) และถึงจะมี Expandable ที่มีที่ใส่ M2 แต่เฟิร์มแวร์ไม่รองรับและยังไม่มี M2 ตัวไหนที่ใช้ได้กับเครื่องเลย รอต่อไป ได้แต่ต่อ External HDD ของ PS4 มาประทังแก้ขัดไปก่อน จะเล่นเกมไหนค่อยย้ายลงคอนโซลเอา
Optical Drive
ที่เขาบอกว่าจะมีระบบ Backward Compability ก็คือไม่ได้แกง เพราะสามารถเล่นเกมจากแผ่น PS4 ได้จริง แล้วยังรองรับได้ตั้งแต่ Ultra HD Bluray ไปจนถึง DVD ถ้ามีแผ่นหนังบลูเรย์ดีๆมาเปิดก็คงจะฟินน่าดูกับภาพชัดตาแตก
(กำลังรอ Bluray IZ*ONE Oneiric Theater มาส่ง กะลองชิมลางจากแผ่นนี้เลย)
Sounds
จัดหนักตั้งแต่ประสิทธิภาพ กราฟิค ยันเสียง ด้วยเทคนิค Audio แบบ Tempest 3D ที่สามารถเสกเสียงคมชัดสะใจได้กระหึ่มแบบ Surround แถมยังสามารถปรับแต่งลำโพงได้ตามใจชอบด้วย ยิ่งถ้ามีหูฟัง Pulse ของทางโซนี่ด้วยก็จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์สุดๆ //แต่นี่ไม่มีแงะ แต่ต่อลำโพงอย่างเดียวก็สะใจแล้ว
Dualsense Wireless Controller

นอกจากวัตถุดิบหลักอย่างเครื่องคอนโซลแล้ว ก็ยังมี Dualsense Wireless Controller ที่ยกระดับจาก Dualshock มาได้อย่างก้าวกระโดดทั้งด้าน Design และ Function จะเป็นยังไง ไปค่ะพส
Design
ตัวจอยก็ใช้ดีไซน์สีเหมือนกับตัวคอนโซลก็คือขาวดำ และมีขนาดใหญ่หนักกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเรามือเล็กยิ่งจับแบบเต็มมือกว่าจอยตัวก่อน ตัวปุ่มกดที่เปลี่ยนมาใช้แบบปุ่มใสแทน (สต.ชอบแบบปุ่มด้านมีสีของ Dualshock กว่า) และการลดรูปปุ่มโฮมจากกลมๆจนเหลือแค่โลโก้ PS อย่าเดียว พร้อมกับการเปลี่ยนปุ่ม SHARE มาเป็น CREATE ที่มีหน้าที่สร้างมีเดียต่างๆตามแต่ใจคนเล่นทั้ง Screenshot, VDO, Broadcast ส่วนการใช้งานอื่นๆก็เหมือนเดิม
จุดที่ชอบคือทัชแพดที่ออกแบบมาเป็นผิวเรียบด้านแทนแบบขรุขระเล็กๆ แบบนี้ดีแล้วแหละ แบบเก่าเวลาต้องใช้นิ้วรูดมันจั๊กจี้เล็กน้อย
และแล้วก็ได้มีการใส่กิมมิคไว้บนจอยด้วย ตรงส่วนด้ามจับจะมีพื้นผิวขรุขระ และความขรุขระที่ว่านั่นก็มาจากสัญลักษณ์ปุ่มสี่ปุ่มบนจอยนั่นแหละ อีกแล้วน้าโซนี่
เรื่องของแบตเตอรี่ จากการใช้งาน ถ้าชาร์จเต็มก็จะใช้งานได้ที่ 4-5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จก็จะใช้ USB Type-C ในการชาร์จ หรือวางบนแท่นชาร์จได้เลย ถ้ามีอะนะ ส่วนตัวเราก็ใช้ Fast Charging ของมือถือ S10 ชาร์จได้เลย
Performance
นอกจากดีไซน์ที่ออกแบบมาได้ปังปุริเย่แล้ว โซนี่ก็ยังคงจัดหนักจัดเต็มมาด้วยลูกเล่นใหม่ๆที่จะเพิ่มประสบการณ์การเล่นให้แซ่บจี๊ดด้วยฟังก์ชั่นต่อไปนี้
Haptic Feedback
โดยปกติกับจอย Dualshock จะสั่นแต่สั่นแบบทั้งจอย แต่ด้วย Haptic Feedback จาก Dualsense จะเป็นการสั่นแบบส่ง Feedback หาผู้เล่นตามสภาวะในเกมที่ต่างกัน สั่นหลายจุดและเฉพาะจุดได้ เช่น การเดินบนพื้นทรายหรือว่ายน้ำ ก็จะมีการตอบสนองที่แตกต่างกัน สั่นเหมือนเราไปอยู่ในนั้นจริงๆ
Adaptive Trigger
ฟังก์ชั่นที่ปรับความหนืดของการกดปุ่มอนาล็อค L2/R2 ได้ตามการเล็งด้วยการทำงานของสปริงคอยล์ในปุ่มที่ต้านนิ้วเราไว้ เช่น ปืนแต่ละชนิดจะมีความแข็งในการเหนี่ยวไกต่างกัน มีแรงดีดหลังจากยิงไม่เหมือนกัน ตัว Trigger ก็จะหนืดแข็งตามชนิดของอาวุธที่ใช้ กดทีคือรู้สึกถึงแรงต้านแรงสู้จากปุ่ม
ตอนลองครั้งแรกกับ Watch Dogs Legion คือตกใจเลยว่าทำไมยิงไม่ออก จนกระทั่งตรัสรู้ได้ว่า อ๋อ มันต้านนิ้ว ยังกดไม่สุด ทั้งที่ตอนเล่นใน PS4 กระดิก R2 นิดเดียวเป่ากระเด็นแล้ว
นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนที่ใช้ง่ายมากๆ และเป็น Build-in ในตัว ไม่ต้องต่ออุปกรณืเพิ่ม และในอนาคต อาจมีเกมที่อาจต้องใช้ไมค์ในการเล่นด้วย เพราะไมค์ก็สามารถตอบสนองเราได้เหมือนกัน
ในปัจจุบันนี้ยังมีเกมที่รองรับฟังก์ชั่น Dualsense ได้ไม่มากนัก ทางโซนี่จึงหาทางขิงและขายฟังก์ชั่นจอยจัดเต็มผ่านเกมที่ติดตั้งฟรีในเครื่องอย่าง ASTRO’s Playroom ที่โชว์ศักยภาพและรีดลูกเล่นของจอยออกมาได้อย่างเต็มที่

Operation System


ออกตัวก่อนว่าอันดับแรกถูกใจ UI มากกกก ออกแบบมาได้สวยและเข้าถึงได้ง่าย และเมนูต่างๆสามารถ Customize ระบบได้ตามใจชอบและหลากหลายกว่าเดิม ทั้งการแยกส่วนของ Games และ Media ออกจากกัน การใช้ไอค่อน และตอนนี้เราสามารถ Track ชั่วโมงเล่นเกมได้แล้ว!!
ในส่วนของการใช้ปุ่มโฮม ครั้งนี้การกดครั้งเดียวจะเป็น Quick Access ตามที่ได้ Customize Menu เอาไว้ รวมไปถึงสามารถสลับกลับเข้าเกมได้อย่างง่าย แต่หากจะกลับมาหน้าโฮมจริงๆต้องกดค้าง
ข้อเสียหลักๆตอนนี้ที่ไม่ถูกใจนักคือ “ไม่มีระบบโฟลเดอร์” ทำให้ระบบตอนนี้เรียงเกมหน้าโฮมตามคิวที่เล่นล่าสุด ส่วนเกมอื่นที่ไม่ได้เปิดนานจนหลุดลิสก็ต้องไปหาเอาใน Library ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตโซนี่จะปล่อยเฟิร์มแวร์ที่สามารถจัดเกมตามโฟลเดอร์ได้
Media Section
ส่วนของ Media ก็ไม่ค่อยต่างกับ PS4 เท่าไหร่ ก็จะมี Netflix, Apple TV, Amazon Prime, Youtube และ Spotify ซึ่งตอนนี้เราสามารถฟัง Spotify ไปพร้อมกับเล่นเกมได้แล้ว ส่วนการสตรีมดูหนังฟังเพลง ด้วยพลังของฮาร์ดแวร์และการประมวลผลขั้นเทพ เน็ตแรงไม่กระตุก เราอาจเนรมิต PS5 ให้กลายเป็น Home Thaeter ขนาดย่อมได้ก็คงจะไม่เกินจริงนัก
Customization
สำหรับการ Customize อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่ามีความหลากหลายมากในการปรับแต่งระบบ ก็จะขอยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น
- Output: Video, Audio
- Saved Data ที่แยกเป็นแบบ PS5 / PS4
- Capture ‘n Broadcast: สามารถเลือกได้ว่าจะเก็บคลิปเก็บรูปตอนได้ถ้วยมั้ย ฟอร์แมตไฟล์วิดีโอ เป็นต้น
- ตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆใน Accessory เช่นตั้งค่าการสั่น ทริกเกอร์ ไฟจอย
- Spoiler Warning!!!: สำหรับเวลาแชร์ภาพหรือคลิปที่อาจมีสปอย ตรงนี้เราจะปิดหรือไม่ปิดก็ได้
- Control Center ที่ช่วยติดตาม Trophy / Progression ของเกม
Migration Review
สำหรับการย้ายบ้านจาก PS4 -> PS5 ด้วยเน็ตฮอตสปอต A*S ในย่านคอนโดเมืองทองมันช้าจนสล็อตคลานยังเร็วกว่านั้น ด้านตัวเกมใช้วิธีย้ายเกม Digital ลง External HDD ให้หมดแล้วไปเสียบต่อเครื่องใหม่ ส่วนแผ่นค่อยก็อปปี้ใหม่เอา และตัว Save Game เนื่องจากมี PS Plus ก็ทยอยอัพไปเก็บใน Cloud แล้วค่อยโหลดลงเครื่องใหม่
Let’s Play!!!
ทำความรู้จักกับฮาร์ดแวร์และ OS ปรับแต่งเครื่องจนพอใจ ว้าวจนนับคำไม่ได้มาพอแล้ว มันจะไปว้าวให้สุดได้ยังไงถ้าเราไม่ได้ไปลองเล่นเกม คาจา!!!
(สำหรับเกมใดที่เป็นเวอร์ชั่น PS4 แล้วอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ระบบจะอนุญาตให้เลือกเล่นได้ทั้งสองเวอร์ชั่น)
หมายเหตุ: ภาพต่อไปนี้ แคปออกมาจาก PS5 จริง ไม่ได้ไปก็อปในเน็ตมา
ASTRO’s Playroom

อย่างที่ได้เล่าไปข้างบนว่าเนื่องจากยังมีเกมที่โชว์ศักยภาพของ PS5 ได้ไม่มากนัก ทางโซนี่เลยเอาของมาโชว์กับเกม ASTRO’s Playroom ที่ติดตั้ง “ฟรี” มาในเครื่อง PS5 เลยทีเดียว ซึ่งตัวชูโรงหลักๆเลยก็คือการรีดศักยภาพและโชว์ของ Dualsense ได้แบบจัดเต็ม
ว้าวตั้งแต่การเดโม่คอนโทรลเลอร์ เกมเพลย์ที่ถึงแม้จะเป็นเกมตะลุยด่านเก็บของธรรมดา แต่ด้วยการดึงศักยภาพและลูกเล่นของคอนโทรลเลอร์ Haptic Feedback ที่ปรากฏในแต่ละฉากที่ก็ทำออกมาได้สวยและ Represent ตามธีมฮาร์ดแวร์ของเครื่องได้ออกมาคัลเลอร์ฟูลและท้าทาย(จนตายไปหลายรอบ) อีกทั้งกิมมิค Collectibles ที่ย้อนไปถึง PS1 น่าจะถูกใจสาวก Playstation ไม่น้อย
Watch Dogs: Legion

เกมอัพเกรดจาก PS4 ไป PS5 เกมแรกที่ได้ลอง โดยในเวอร์ชั่น PS5 เกมได้มีการเปิดใช้งาน Ray Tracing แล้ว ทำให้กราฟิกในเกมจากที่สวยอยู่แล้ว ดูมีมิติรายละเอียดแสงเงาที่คมชัดมากขึ้นกว่าเดิม บวกกับระบบเสียงที่สมจริงและกระหึ่มทั้งลำโพงกับคอนโทรลเลอร์ ทำให้การท่องลอนดอนเพลิดเพลินขึ้นกว่าที่เคย
และอย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า Watch Dogs Legion ก็มีระบบ Adaptive Trigger แล้ว ทำให้เวลายิงปืนมีความหนืดแรงต้านแล้ว แถมมี recoil ตอนยิงเสร็จด้วย จะสมจริงไปไหน
ในส่วนของ 60FPS ตอนนี้ทาง Ubisoft ประกาศมาแล้วว่าจะมีให้ในอัพเดทในอนาคต ก็ต้องมาลุ้นกันว่าความลื่นของเกมนั้น สามารถรันลื่นๆไปได้เลยมั้ย หรือต้องแลกกับลดทอนรายละเอียดภาพสวยๆออกไป
Marvel’s Spider-man Miles Morales

หากเล่นในเวอร์ชั่น PS5 แล้ว Marvel’s Spider-Man Miles Morales จะมีตัวเลือกให้ปรับกราฟิกได้ทั้งหมด 3 ระดับ:
– Fidelity: สายภาพสวยถูกใจสิ่งนี้ เพราะจะมากับ 4K Ray Tracing แสดงรายละเอียดจัดเต็ม
– Performance: ส่วนสายลื่นมาทางนี้ เพราะโหมดนี้จะรันที่ 4K 60FPS
– Performance RT: ลูกผสมของสองอันข้างบน ได้ 4K 60FPS กับ Ray Tracing แต่รายละเอียดก็จะลดลงจาก Fidelity >> Recommended!!
ส่วนตัวเล่นแบบ Performance RT ที่มีทั้ง 4K 60FPS RT บอกเลยว่าฟินตาแตก เปิดโลกใหม่มาก เหมือนขึ้นสวรรค์
Summary
หลังจากลองเล่นมาแล้วร่วมเดือนต้องบอกเลยว่า “นี่คือคอนโซลยุคใหม่แห่งวงการ Paystation” ด้วยการอัพเกรดทั้งด้าน Graphic ‘n Performance ที่จัดเต็มเพื่อเกมในยุคนี้และอนาคต ทั้งยังสามารถเล่นเกมเก่าจาก PS4 ได้ด้วย กะเล่นแบบยาวๆจนเปลี่ยนเจนได้เลย
แต่ด้วยเนื่องจากออกวางจำหน่ายใหม่เพียงไม่กี่เดือน ทำให้ประสบปัญหาบ้างทั้งด้านฮาร์ดแวร์และ OS อาจจะต้องรอทางผู้พัฒนาปล่อยเฟิร์มแวร์มาให้อัพเดทซักระยะนึงกว่าจะเข้าที่เข้าทาง บวกกับก็ยังไม่มีเกมที่พัฒนามาเพื่อ PS5 มากนัก อาจจะทำให้เราเต็มอิ่มกับศักยภาพเจ๋งๆนี้ได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น
สำหรับเราแล้ว ถ้ายังไม่มีความจำเป็นและยังหาซื้อเครื่องไม่ได้ ก็แนะนำว่า “ให้รอก่อน” จนกว่าทางศูนย์ไทยจะมีเครื่องเพียงพอต่อความต้องการและราคาศูนย์ที่เหมาะสมแล้วดีกว่า (ตอนแรกนี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อแงะ แต่ได้มาเพราะคอนเนคชั่นล้วนๆ) แต่ถ้าอยากสัมผัสอยากลองหรือมีเงินหนาพอหรือรอได้จนถึงเวลานั้นละก็…ลุยเลย!! //เอนี่เวย์ ถ้าจะรีเซลก็รีเซลเครื่องศูนย์ไทยเถอะ อย่างน้อยยังส่งเคลมหรือเบิกประกันได้
ส่วนเราก็ ขอตัวไปเล่นเกมต่อละน้า ฟิ้ววววว
#RE_PAIR