[TH-Trans] Tainted Love

Cover
Page 1
Page 2

About this title

  • Title: Tainted Love
  • Magazine: Century
  • Chapter: Russian Roulette (ห้องนอนของแฮงค์)

Real Contents

Cover

Sales of android ‘intimate partners’ are exploding

TAINTED LOVE

Police to use marketing data identify criminals early

Politics in focus: are American senators really corrupt?

Page 1

Androids capable of satisfying customers’ sexual and emotional needs have been a phenomenal success, such that CyberLife has been battling to keep stores stocked. Though the idea seemed far-fetched initially, CyberLife’s gamble has paid off.

These androids offer nothing less than a full partner experience, for men or women. The advantages are many: androids take care of the house, cook to a high standard, and fulfil [sic] any sexual fantasy without ever saying “not tonight, honey – I have a headache”.

Page 2

While CyberLife initially focused on urban singles to buy its models, this year’s record divorce rate seems to show that many men and women today prefer to live with an android than with a human partner.

This won’t help the already plummeting birth rate, which raises serious questions about the role androids play in our society.


TH-Trans Content

Cover

ยอดขายแอนดรอยด์ “อันเป็นคู่หูที่คุ้นเคย” กำลังจะถูกเปิดเผย

ความรักที่มีมลทิน

ตำรวจใช้ข้อมูลกาตลาดเพื่อระบุตัวคนร้าย

เจาะลึกการเมือง: สมาชิกวุฒิสภาอเมริกันทุจริตจริงหรือ?

Page 1

ความสามารถในการสร้างความพึงพอใจของแอนดรอยด์ทั้งความต้องการและอารมณ์ทางเพศของลูกค้าประสบความสำเร็จอย่างน่าประหลาด ดังนั้น Cyberlife เลยต่อสู้เพื่อให้มีสต๊อกในคลังเก็บของ อย่างไรก็ตาม ไอเดียนี้ดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ การเสี่ยงโชคของ Cyberlife ก็จะต้องจ่ายหนัก

แอนดรอยด์เหล่านี้ทำได้ไม่น้อยกว่าประสบการณ์ของพนักงานเต็มเวลาเลยทีเดียวไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง ข้อดีมีมากมายไม่ว่าจะสามารถทำงานบ้านได้ ทำอาหารได้ดี และเติมเต็มจินตนาการระหว่างมีเซ็กซ์ได้โดยไม่บ่ายเบี่ยงเช่น “คืนนี้ไม่เอานะที่รัก พอดีผมปวดหัวน่ะ”

Page 2

ในขณะที่ Cyberlife โฟกัสกับคนโสดในเมืองกับการซื้อรุ่นดังกล่าว รายงานอัตราการหย่าร้างของปีนี้ก็ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่ามีผู้ชายและผู้หญิงหลายๆคนทุกวันนี้อยากใช้ชีวิตกับหุ่นแอนดรอยด์มากกว่าอยู่ด้วยกันเอง

เหตุการณ์นี้ไม่ได้ช่วยให้อัตราการเกิดลดฮวบลงอยู่แล้ว ซึ่งก็เกิดการตั้งคำถามจริงจังขึ้นมาว่าด้วยแอนดรอยด์บทบาทสมมติในสังคมเรา

TH-Translate by mrggaebsong

[TH-Trans] The Bee-Line to Disaster

Cover
Page 1
Page 2

About this title

  • Title: The Bee-Line to Disaster
  • Magazine: Century
  • Chapter: Fugitives (ในร้านซักรีด)

Real Contents

Cover

Pollinating bees officially extinct

THE BEE-LINE TO DISASTER

Cyber security expert warns: “your android could be hacked”

Dating website discovered to have “less than 5% female members”

Page 1

For decades, scientists and farmers foresaw the inevitable extinction of bee populations.

Despite these warnings, the Global Institute for Endangered Species (GIES) announced at their Washington AGM yesterday that wild bees are now officially extinct – living specimens exist only in captivity.

Bee numbers have been ravaged in recent decades by Colony Collapse Disorder, where worker bees disappear – leaving hives which cannot feed themselves.

Biologists confirmed that CCD was accelerated by the overuse of pesticides in crops, parasites and pollution.

Page 2

The consequences of this catastrophe will be felt across the cotton industry, fresh water supplies and, most disturbingly, agriculture. Environmentalist Cathy Linda has stressed the breadth of this news: “one in three mouthfuls of food we eat relies on pollination of some kind”. The resulting famine will lead to “millions of deaths” worldwide.

CyberLife, in cooperation with GIES, have come forward with plans on creating robotic bees. Some are pursuing non-robotic approaches, such as Detroit Urban Farms currently experimenting with modified strains of bee produced in captivity, but there is no guarantee that they will thrive.


TH-Trans Content

Cover

ผึ่งผสมเกสรได้สูญพันธ์อย่างเป็นทางการแล้ว

มุ่งหน้าสู่ภัยพิบัติ

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เตือน “หุ่นแอนดรอยด์ของคุณอาจถูกแฮค”

เว็บไซต์หาคู่เดทเผย มีสมาชิกที่เป็นผู้หญิง “น้อยกว่า 5%”

** Bee-line เป็นสำนวนแปลว่า มุ่งตรงสู่, มุ่งหน้าไป ก็เลยเอามาพาดหัวข่าวเป็นคำพ้องกับ Bee เพราะพูดถึงเรื่องผึ้ง

Page 1

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่นักวิทยาศาสตร์และชาวนาได้คาดการณ์ถึงการสูญพันธ์ของประชากรผึ้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยสายพันธุ์อันตรายโลกได้ออกมาประกาศในงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่าผึ้งป่าได้สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนตัวอย่างผึ้งที่ยังมีชีวิตยังมีอยู่เฉพาะในที่กักเก็บเท่านั้น

จำนวนผึ้งลดลงมหาศาลในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาจากปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย ผึ้งงานสูญหาย ทิ้งไว้แต่รังที่ไม่สามารถให้อาหารแก่พวกมันได้

นักชีววิทยายืนยันว่าปรากฎการณ์นี้ถูกเร่งมาจากการใช้ยาฆ่าแมลงในพืชไร่, ปรสิต และมลภาวะ

Page 2

ผลลัพธ์ของความหายนะนี้จะกระจายไปทั้งอุตสาหกรรมผ้าฝ้าย การจัดส่งน้ำดื่ม และมีกระทบที่สุดก็คือการเกษตร Cathy Linda นักสิ่งแวดล้อมเกิดความตึงเครียดต่อการกระจายในวงกว้างของข่าวดังกล่าว “1 ใน 3 ของอาหารหนึ่งคำขึ้นอยู่กับการผสมเกสรกับบางอย่าง” ผลของการขาดแคลนเหล่านี้จะนำไปสู่ “การตายของคนหลายล้านคน” ทั่วโลก

Cyberlife ที่ให้ความร่วมมือกับสถาบัน GIES ได้เดินหน้าแผนการสร้างหุ่นยนต์ผึ้ง บางงานก็สามารถลุล่วงได้โดยวิธีการที่ไม่ต้องใช้หุ่นยนต์ เช่นเดียวกับฟาร์มคนเมืองแห่งดีทรอยต์ที่กำลังทดลองเปลี่ยนวงศ์ของผึ้งที่ผลิตจากที่กักเก็บ แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าจะสำเร็จลุล่วง

TH-Translate by mrggaebsong

[TH-Trans] The North Pole – Why Russia Wants It

Cover
Page 1
Page 2

About this title

  • Title: The North Pole – Why Russia Wants It
  • Magazine: Century
  • Chapter: The Painter (โต๊ะหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง)

Real Contents

Cover

Frozen treasures

THE NORTH POLE – WHY RUSSIA WANTS IT

Bonus culture- why bankers pay themselves so much

Is President Warren too close to CyberLife?

Page 1

Russia’s interest in the North Pole has intensified with the recent discovery of precious minerals trapped in the frozen ice, many of which are used in synthesizing Thirium.

Android manufacture increasingly dominates both the US and Russian economies, but this isn’t just about GDP – surplus Thirium reserves would allow either nation to experiment in more advanced android models, enhancing their military and industrial output tremendously.

Page 2

Add to this the strategic importance of the region – which connects Russia with Europe through Norway and Denmark (Greenland), as well as Canada – and the prospect of a peaceful resolution to the dispute seem unlikely.

But a spokesperson for NATO is more optimistic: “Both nations stand to benefit from a stable, productive Arctic region. A conflict would benefit nobody”.

President Warren, however, recently torpedoed the notion: “It’s simple. Russia has no business in the Arctic. If the Kremlin doesn’t understand that, we will make them understand.”


TH-Trans Content

Cover

สมบัติที่ถูกแช่แข็ง

ขั้วโลกเหนือ – ทำไมรัสเซียถึงต้องการมัน?

ค่านิยมสุดพิเศษ – ทำไมพนักงานธนาคารจึงจ่ายหนัก?

ประธานาธิบดี Warren สนิทชิดเชื้อกับ Cyberlife มากเกินหรือไม่?

Page 1

ความสนใจที่มีต่อขั้วโลกเหนือของรัสเซียนั้นทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการค้นพบล่าสุดที่พบแร่มีค่าที่ฝังตัวในน้ำแข็ง ซึ่งมีจำนวนมากพอในการนำไปสังเคราะห์สารธีเรียมได้

** ธีเรียม (Thirium): สารที่ใช้เป็นเลือดของแอนดรอยด์ มีลักษณะเป็นของเหลวสีฟ้า เมื่อออกสู่ภายนอกภาชนะบรรจุหรือตัวแอนดรอยด์จะระเหยเร็วมาก เมื่อระเหยแล้วจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

การผลิตแอนดรอยด์ขยายตัวครอบคลุมเศรษฐกิจทั้งในอเมริกาและรัสเซีย แต่ไม่ใช่แค่ค่า GDP – ธีเรียมสำรองส่วนเกินนั้นยังถูกอนุญาตให้นำมาใช้ระดับชาติเพื่อวิจัยทดลองการพัฒนารุ่นของแอนดรอยด์, การเพิ่มกองกำลังทางทหารและผลผลิตทางอุตสาหกรรมก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก

Page 2

เพิ่มเติมเรื่องกลยุทธสำคัญของภูมิภาคที่เชื่อมต่อกับรัสเซียและยุโรปผ่านนอร์เวย์และเดนมาร์ค (กรีนแลนด์) เช่นเดียวกับแคนาดา และการคาดการณ์การแก้ปัญหาอย่างสันติที่นำไปสู่ข้อพิพาทก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้น

แต่ว่าโฆษกประจำ NATO กลับคาดหวังสิ่งที่ดีกว่านั้น: “ทั้งสองชาติได้เตรียมพร้อมที่จะรับผลประโยชน์จากสิ่งที่มั่นคงนั่นก็คือภูมิภาคอาร์คติกที่อุดมสมบูรณ์ ความขัดแย้งนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น”

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Warren ได้ทำลายความเชื่อนั้นลง: “มันง่ายมาก รัสเซียไม่ได้มีธุระอะไรกับอาร์คติกแล้ว ถ้าเครมลินยังไม่เข้าใจ เราจะทำให้เขาเข้าใจเอง”

TH-Translate by mrggaebsong

[TH-Trans] Connecting the Dots

Cover
Page 1
Page 2

About this title

  • Title: Connecting the Dots
  • Magazine: Century
  • Chapter: A New Home (บนโต๊ะอาหารบริเวณห้องนั่งเล่น)

Real Contents

Cover

The transport innovation that’s shaking up California

CONNECTING THE DOTS

Politics in focus: are American senators really corrupt?

China earthquake kills 10,000 people

Page 1

The new “SubTube” completed its first journey today, from Manhattan to downtown L.A. in under two hours – less than half the five hour flight time. The top speed of 1,800 mph was made possible because the tube travels through a depressurized chamber, providing a near-frictionless environment for its magnetized motors.

For commuters, this raises the tantalizing prospect of finishing a long shift in the Big Apple and putting your feet up on the Golden Coast.

Page 2

California’s property markets are reacting: suburban prices have skyrocketed 64%. L.A. realtor Charlene Lowe says she knows where the new buyers are coming from: “They’re East Coast types, specifically New Yorkers. They see a chance to keep that NYC salary whilst enjoying an LA lifestyle, and they’re scrambling over each other to take advantage.”

Real estate isn’t the only thing shaking up: school places are rapidly filling and suburban retailers are racking up prices in anticipation of all those New York dollars flooding in. Long time Californians are expected to be pushed out from the cities – which is why they’ve been protesting the new line. As one angry demonstrator put it: “First Detroit takes our jobs, then New York takes our homes? When’s it gonna end?”


TH-Trans Content

Cover (พาดหัวข่าว)

นวัตกรรมการขนส่งที่จะเขย่าแคลิฟอร์เนีย

เชื่อมต่อหลายๆจุด

เจาะลึกการเมือง: สมาชิกวุฒิสภาอเมริกันทุจริตจริงหรือ?

แผ่นดินไหวในประเทศจีนคร่าชีวิตคนนับหมื่น

Page 1

“SubTube” รุ่นใหม่จบการเดินทางเที่ยวแรกแล้ววันนี้ จากแมนฮัตตันไปยังใจกลางนครลอสแองเจลิสในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง – น้อยกว่าครึ่งนึงของเที่ยวบิน 5 ชั่วโมง รถไฟความเร็วสูง 1800 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นไปได้แล้วเพราะรถไฟเดินทางผ่านท่อลดความดันที่ทำให้มีสภาพเกือบไร้แรงเสียดทานสำหรับเครื่องยนต์แม่เหล็ก

สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำแล้ว สิ่งนี้จะยกระดับโอกาสที่น่าเย้ายวนใจในการเดินทางไกลใน Big Apple และพักผ่อนใน Golden Coast

Page 2

ปฏิกิริยาตอบรับจากตลาดอสังหาริมทรัพย์แคลิฟอร์เนีย: ราคาย่านชานเมืองพุ่งทะลุสูงถึง 64% – Charlene Lowe ตัวแทนจัดจำหน่ายกล่าวว่าเธอรู้ว่าผู้ซื้อรายใหม่นั้นมาจากไหน “พวกเขามาจากย่านชายฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะคนนิวยอร์ค พวกเขามองเห็นโอกาสที่จะรักษาเงินเดือนจากนครนิวยอร์คในขณะที่ก็สามารถเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์แบบ LA ได้ด้วย เขาจะเอาสองอย่างนี้มาปนกันเพื่อหาผลประโยชน์จากมัน”

ไม่ใช่แค่อสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่โดนเขย่า: บริเวณโรงเรียนก็เพิ่มขึ้นและผู้ค้าปลีกในย่านชานเมืองได้กอบโกยมูลค่าในการรอคอยจากความคาดหวังของชาวนิวยอร์คที่หลั่งไหลกันเข้ามา ในระยะยาว ชาวแคลิฟอร์เนียถูกคาดหวังว่าอาจจะต้องย้ายออกจากเมือง นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดการประท้วงขึ้น ดั่งที่ผู้ประท้วงที่โกรธเกรี้ยวรายหนึ่งกล่าวว่า “ตอนแรก ดีทรอยต์ก็แย่งงานไปจากเรา ตอนนี้นิวยอร์คก็จะมาแย่งบ้านของเราอีก? เมื่อไหร่มันจะจบซักที?”

TH-Translate by mrggaebsong

PS4 Game Documentation [TH-Trans]

ยินดีต้อนรับสู่ section ในโลกเกมใบน้อยๆของติ่งตัวเร้กๆกันนะคะ โดยพาร์ทนี้ที่เราจะทำก็คื้อออออ….

โปรเจกต์แปลภาษาจากเอกสารในเกม PS4 ที่เราเล่นมาแล้วนั่นเองค่าาาาา!!!!!

จุดประสงค์ของการทำโปรเจกต์นี้คือ อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ แล้วก็ตอนเล่นเกมหน้างานมันก็ไม่ค่อยได้มีเวลาสนใจเนื้อหาในเอกสารเท่าไหร่(ถ้าไม่จำเป็น) จึงขอใช้โอกาสนี้ในการอยู่กับมันเพื่อเข้าใจอะไรหลายๆอย่างในเกมมากขึ้น

โดยเกมที่เราจะเอามาแปลในนี้ก็จะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • Detroit: Become Human – แปลในส่วน Magazine
  • Uncharted 4: A Thief’s End – แปลในส่วน Journal Notes ที่เนทเก็บได้
  • Horizon Zero Dawn – แปลในส่วน Data Point
  • The Last of Us Series- แปลในส่วน Artifacts และ Training Manuals
  • Death Stranding – แปลในส่วน Mail, Interviews และ Memory Chip
  • Assassin’s Creed Odyssey – แปลในส่วน Ainigmata Ostraka และ Discovery Tour

หากแปลผิดพลาดประการใดก็สามารถทักท้วงได้และขออภัยหากมีความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ

แชร์แนวการเก็บแพลตเกม Detroit: Become Human

ปล. ตอนนี้ดีทรอยต์กำลังแจกฟรีในพลัสรอบเดือน 7/2019 ไปตำจ่ะ เกมดีๆมาทั้งทีต้องไม่พลาด ชุด Deluxe ด้วยจุกๆ

ในฐานะที่เกือบจะเป็นแฟนเกมแนว Tech และชาวด้อม ConnorArmy ก็ไม่พลาดที่จะได้เสพเกมเนื้อเรื่องแนวทางเลือกดีๆเช่นเกมนี้ //และคอนเนอร์หล่อมาก

อีกความประทับใจที่มีต่อตัวเกมก็คือ เกมนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นเลยที่ก้าวเข้าสู่วงการคอนโซล จุดกำเนิดแพชชั่นอันแรงกล้าที่จะต้องหามาเล่นให้ได้ และแน่นอนความฝันอันสูงสุดของนี่ก็คือ ถ้วย Platinum นั่นเองค่ะ

ถ้วย Detroit Master ถ้วยแพลตอันสูงสุดของเกม

ส่วนตัวเล่นจบไปทั้งหมด 3 รอบ ได้แพลตแล้ว ซึ่งการจะได้แพลต บอกไว้ก่อนว่า “ไม่มีทางจะเก็บแพลตได้จากการเล่นรอบเดียว” เพราะแต่ละถ้วยก็ไปตามช้อยหรือรูทที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเล่นหลายๆรูทเพื่อกว้านถ้วยทั้งหมดนั่นเองค่ะ

หลังจากเล่นจนเอียนก็ได้ซะที

เชื่อว่าหลายๆน่าจะเล่นจบไปแล้วและบางส่วนก็ล่าแพลตเรียบร้อย แต่เราก็จะเขียน555555 ในบทความนี้จะมาแนะนำทริกการเก็บแพลตและทริกการเล่นในฉบับของเราเอง

// ในส่วนของเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง แต่อาจมีภาพเกมเพลย์หรือทริคบางส่วนที่อาจถูกสงสัยว่าสปอยล์ได้ ถ้าไม่คิดอะไรก็ข้ามๆเลื่อนๆไป แต่ถ้าไม่ก็ เรียนเชิญปุ่มกากบาทและปุ่ม Back


คำแนะนำก่อนเก็บแพลต

  • ในส่วนของ รีวิว เกมเพลย์หรือเนื้อเรื่อง สามารถหาได้ทั่วไปตาม Youtube หรือ Google หรือใครขี้เกียจดู(เพราะบางที่ก็ได้ฉากจบไม่เหมือนกัน)ก็แนะนำลิ้งสรุปเนื้อเรื่อง รูท และเกมเพลย์ Walkthrough ที่ค่อนข้างครบค่ะ > Detroit: Become Human Wikipedia
  • หากเล่นรอบแรก อยากให้เสพเนื้อเรื่องหรือเสพช้อยส์แบบงมๆเองเพื่ออินทางเลือก ถ้าจบแล้วอยากแพลต ไปค่ะ กดสูตร สปีดรัน (บางซีนถ้ามีตอนจบแบบเดียวก็สามารถเก็บ Flowchart 100% ได้)
  • เนื่องจากการตอบของแต่ละตัวละครค่อนข้างส่งผลกระทบต่อการกระทำต่างๆในอนาคต และความสัมพันธ์ของตัวละคร เพราะฉะนั้น Intermediate English and quick translation skills are required. //ถ้าไม่ถึงขั้นนี้แนะนำให้กด Pause ก่อนแล้วเปิดดิกเอา
เวลามีช้อยส์เด้งขึ้นมาให้ตอบ ศัพท์ก็จะอลังการและเฉพาะทางประมาณนี้ จะไม่มีเวลามาเกี่ยวก็แล้วไป แต่ถ้ามีก็ต้องแปลเร็วกันละงานนี้
  • ถ้าไม่อยากเสียเวลาเริ่มเล่นใหม่แต่ต้นหลายรอบ แนะนำให้วางแผนค่ะว่ารอบนี้อยากเก็บกี่ถ้วย แล้วก็วางแผนรูทที่จะเล่นไปเลย บางครั้งแต่บางตัวละคร(เช่นคาร่าและมาร์คัส)เก็บถ้วยหรือนิตยสารครบแล้ว ก็ฆ่าแม่งทิ้งไปเลยเพื่อความรวดเร็วของเกมเพลย์
  • ปุ่ม R2(Scan) มีประโยชน์มากในเกมนี้ จงใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะบางครั้งเราอาจจะพลาดอะไรดีๆไปก็ได้ รองลงมาคือ L1(Look) หากมีสัญลักษณ์ดวงตาพร้อมข้อความ L1 ให้กดดูทันทีที่เจอมัน
กดสแกนด้วย R2 ตรงไหนยังไม่สำรวจก็จะขึ้นเหลืองๆแบบนี้
  • ถ้าหากเล่นครั้งแรกและไม่ชิน QTE จงหลีกเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ จงตั้งสติของท่านให้ดี อย่าให้ความลนมาทำให้เกมพัง
  • คติประจำเกม by ข้าพเจ้า: Investigate the whole and make it quick.

แนะนำทริกการเล่นกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ต่อไปก็จะเป็นคำแนะนำในการเก็บถ้วยรางวัลแต่ละถ้วยค่ะ ซึ่งมีทั้งหมด 49 ถ้วย Bronze 40 Silver 5 Gold 3 Platinum 1 (ก็แหงล่ะสิ)

เนื้อหาต่อไปนี้จะเต็มไปด้วยการสปอยล์เนื้อเรื่องแบบถึงพริกถึงขิง ท่านใดที่เลี่ยงสปอยล์ จงอย่าเลื่อนลงข้างล่างพร้อมทั้งปิดบทความนี้ไปซะ ส่วนใครที่พร้อมแล้ว เริ่ม!

ถ้วย Platinum

  • DETROIT MASTER: ก็ไม่มีอะไร เก็บถ้วยต่อไปนี้ให้ครบ

แน่ะๆ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครไม่ลับลู้วสปอยล์ กดออกตอนนี้ก็ยังทันนะคะ หลังจากนี้เกิดอะไรขึ้นอย่าหาว่าไม่บอกเพราะ เตือนแล้วนะ!

ก็บอกแล้วว่าเตือนแล้วนะ ยังอีก ไม่อ่านละยังจะเลื่อนลงไปอีก!

กลุ่มถ้วย Bronze

  1. Thank you: ถ้วยพื้นฐานที่ทุกคนได้อัตโนมัติ เพราะจะปลดให้หลังเล่นจบ Chapter แรก (Connor — The Hostage)
  2. Mission Accomplish (The Hostage): คอนเนอร์ช่วยเอ็มม่า(เด็กที่โดน deviant แดเนียลจับเป็นตัวประกัน) วิธีช่วยเด็กได้ก็คือ สำรวจหลักฐานทุกอย่างในบ้านและต้องคุยกับแดเนียลให้อัตราความสำเร็จ 95% ขึ้นไป ซึ่งสามารถช่วยได้ 3 ทาง ดังนี้
  • วิธีคุยแบบดีๆ: คอนเนอร์ตะล่อมแดเนียลจนอัตราความสำเร็จถึง 100% แดเนียลจะไว้ใจเราแล้วปล่อยเด็กเอง
  • วิถีพระเอก: ถ้าเดินมาใกล้แดเนียลมากพอแล้ว ในช่วงโอกาสในการหลอกล่อครั้งสุดท้าย กด Sacrified Self ไปจ่ะ พ่อพระเอกของเราจะวิ่งเอาตัวไปผลักแดเนียลแล้วเอาตัวบังกระสุน
  • วิธีมึงไม่ต้องเล่น: ถ้าแดเนียลถามถึงปืน ตอแหลไปซะว่าไม่มีปืน ในช่วงท้ายถ้ามีจังหวะให้ใช้ก็ควักปืนมาเฮดช็อต

3. Secrets (A New Home): ถ้วยนี้จะปลดหลังจากที่คาร่าเปิดกล่องของอลิซจนรู้ว่าตัวเองโดนอีต๊อดตบเละก่อนจะโดนเอาไปรีเซ็ท วิธีเล่นคือเข้าไปคุยกับอลิซให้ Relationship เป็น Neutral แล้วอลิซจะเอากุญแจยัดใส่มือเราเอง

4. Deviant located (Partners): ปลดเมื่อเราเจอ Carlos’s Android ที่ห้องใต้หลังคา พึงสำรวจหลักฐานให้ครบเพื่อนำได้ขึ้นข้างบนได้ (ตามรอยเลือดสีฟ้าไป)

5. We are Free (Stormy Night): คาร่าพาอลิซหนีจากบ้านอีต๊อด อันดับแรกเราต้องให้คาร่าเป็น Deviant แล้วตามอลิซขึ้นไป มี 2 วิธีที่(น่าจะ)ปลอดภัยคือ

  • Safe Zone: จำได้หรือไม่ ตอนที่คาร่าไปเคลียร์ห้องอลิซแล้วเปิดหน้าต่าง นั่นแหละคือทางออก ไปหาอลิซก่อนต๊อดแล้วล๊อคห้องพาอลิซสไลด์ท่อรางน้ำวิ่งขึ้นรถเมล์
  • Challenge Zone: สำหรับสายโหดสายบู๊ จำได้อีกหรือไม่ ตอนที่คาร่าไปเคลียร์ห้องต๊อด จะเจอปืนในลิ้นชัก ไปหยิบปืนแล้วตามต๊อดไปห้องอลิซ หลังจากนั้นก็…กด QTE ให้ทันค่ะ ถ้าช่วงหยิบปืนคาร่าหยิบทัน คาร่าจะโป้งอีต๊อดทีเดียวจอด แต่ถ้าไม่ทัน ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะอลิซจะเอาไปสอยเอง

6. Self-control (Broken): อันนี้จะน่าหงุดหงิดไปซะหน่อย ในช่วงที่ลีโอหาเรื่องมาร์คัสและมาร์คัสได้ตบะแตกเป็น Deviant แล้ว จะมีให้เลือกว่าจะ Endure หรือ Push Leo เลือกอันแรก ซึ่งน่าหงุดหงิดที่เราอยากจะบวกอีลีโอ แต่คนดีเลยฟังตาคาร์ล แต่ว่าตาคาร์ลดันหัวใจวายตาย และอีลีโอก็ใส่ร้ายกูตอนตำรวจมา อีลีโออีหน้าสัส!

7. Defend yourself (Broken): หากใครขัดใจข้อเมื่อกี๊ ข้อนี้เป็นทางออกสำหรับคุณ ก็คือเลือก Push Leo บวกเปรี้ยงเดียวสลบเหมือด ซึ่งพอตำรวจมาแม่งก็ยิงกูทิ้งอยู่ดีอีเวน

ถ้ากูเป็นมาร์คัสกูจะไม่จบแค่ผลักมึงอิสันขวาน

8. Confession (The Interrogation): ถ้วยรางวัลแห่งความกดดันแม้จะไม่มีฉากแอคชั่น ฉากการสอบสวนในห้องกับการรักษาระดับความเครียดของแอนดรอยด์ที่ 50–70% จงเลือกการสอบสวนแบบ Convince กดดันแบบตะล่อมๆ แล้วหุ่นจะคายทุกอย่างออกมาเองรวมไปถึงรูปปั้นและ rA9 ด้วย

การสอบสวนจะรอดหรือร่วงก็ขึ้นกับเราแล้วนะฮะ

8. Shelter (Fugitives): ปลดล็อคก็ต่อเมื่อคาร่าพาอลิซไปนอนที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ในซากรถ (ห้องพักโมเตลก็ได้ บ้านราล์ฟก็ได้)

9. Know your partner (Waiting for Hank): ตอนที่คอนเนอร์ไปรอแฮงค์ที่สถานีตำรวจ ให้สำรวจโต๊ะแฮงค์ให้ครบ ซึ่งสำคัญมากในฉากต่อๆไป

10. Run Kara Run (On the run): คาร่าหิ้วอลิซหนีตำรวจ มี 2 ทางเลือกให้ไปคือ

  • Dangerous Path: ถ้านอนบ้านราล์ฟ ตอนเล่นเป็นคอนเนอร์ ให้ไปดูที่ใต้บันได เราจะเจอคาร่าหลบก็ต้องไล่ตาม แล้วเราจะสลับไปเล่นเป็นคาร่าที่จะข้ามทางด่วน จงรัว QTE หลบรถให้ทันเพื่อไม่โดนรถชนตายคาทางด่วน
  • Stealth Path: ถ้านอนในรถหรือโมเตล เราจะต้องสเต๊ลหลบตำรวจไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ให้ได้ แต่ไม่ต้องห่วง ซึ่งถ้าสเต๊ลผ่านก็แล้วไป แต่ถ้าสเต๊ลแตกก็เข้ารูทข้างบนอยู่ดี
บอกเลยว่าสีนนี้คือระทึกแบบสุดจัดปลัดบอกมาก เล่นจบคือมือสั่นไปหมด

11. Catch It (The Nest): ในช่วงที่คอนเนอร์กำลังไล่ล่ารูเพิร์ท แฮงค์โดนรูเพิร์ทผลักตกตึก จะต้องเลือกว่าจะ Save Hank หรือ Chase Rupert ซึ่งถ้าเลือกตัวหลังละก็นอกจากได้ถ้วยแล้ว ได้ตบฉาดใหญ่จากแฮงค์ไปด้วย หน้าชาแทน

12. Save Hank (The Nest): เหตุการณ์เดียวกับข้างบน เลือก Save Hank ถึงจะชวดรูเพิร์ทไป แต่ตาแฮงค์จะเอ็นดูเราไปหลายขุมเลยทีเดียว

13. Escape the manor (Zlatko): คาร่าพาอลิซหนีจากบ้านซลัทโก้ พร้อมได้ลูเธอร์ตามสอยห้อยท้ายไปด้วย ซึ่งถ้ารอดจากรีเซ็ทก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่รอดก็ต้องรีบกูคืนความจำโดยเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นใน 10 นาที และหลังจากนั้นก็…รัวปุ่ม QTE หนีตายกันจ้า

  • คำแนะนำ: อย่าลืมเปิดกรงปล่อยแอนดรอยด์หมี หลบในตู้ และเผาบ้านเพื่อความสะดวกรวดเร็วต่อการหนี และหลีกเลี่ยงการปะทะ

14. Ruthless (The Eden Club): หลังจากตบกับคู่รัก Tracis ในซ่อง Eden คอนเนอร์คว้าปืนเล็งใส่ตัวผมแดง กดยิงแม่งเลยค่ะ แล้วตัวผมฟ้าจะตรอมใจคว้าปืนเราไปยิงตัวเองตาย

15. Doubts (The Eden Club): เหตุการณ์เดียวกับเมื่อกี๊ หากเห็นแก่ว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามก็ปล่อยให้เขาไปรักกันดีกว่าเนาะ กด Spare It

16. Jericho’s Hero (Spare Parts): มาร์คัสและผองเพื่อนบุกคลัง Cyberlife จงเหมาของทั้งหมดรวมไปถึงรถบรรทุกโดยห้ามให้ยามเห็น

17. Just a Machine (The Bridge): แฮงค์ฆ่าคอนเนอร์ค่ะ ฟังไม่ผิดหรอก แฮงค์ฆ่าคอนเนอร์ ยิงเฮดช็อตเต็มกบาล ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อความสัมพันธ์ของคอนเนอร์กับแฮงค์เป็น Hostile (รหัสแดง) อันมีผลจากการกระทำก่อนหน้าดังนี้

  • เทแก้วเหล้าตอนไปหาแฮงค์ที่ Jimmy Bar
  • เลือกคุยเรื่อง Basketball และ Anti-Android ตอนอยู่ในออฟฟิศ
  • ตอนล่ารูเพิร์ท ล่าต่อไป อย่าไปสนใจแฮงค์
  • ยิงแอนดรอยด์ Tracis ตอนสู้กันในซ่อง
  • ตอนคุยกันในอีพีนี้ ให้เลือกถามเรื่องรูปโคล(เจอตอนไปบ้านแฮงค์) แล้วก็ตอบคำถามแบบ COLD, Not Alive, Nothing ตอบอะไรก็ได้ที่ไม่แสดงความรู้สึก เมื่อนั้นแหละค่ะ เฮดช็อต
  • การทำคอนเนอร์ตายต่อหน้าแฮงค์ก็กระตุ้นได้ดีทีเดียว

18. A Smile on her face (The Pirate’s Cove): ถ้วยนี้ปลดอัตโนมัติ หลังอลิซขึ้นเล่นม้าหมุนในสวนสนุก Pirate’s Cove (ถ้าพาคาร่าอลิซรอดมาถึงจุดนี้ได้โดยไม่ตายก่อน)

19. When a plan comes together (Stratfort Tower): ปลดถ้วยเมื่อจบตอนแบบ The Group Escaped คือรอดหมดทั้ง 4 คน ไซม่อนไม่โดนยิง ไม่อเลิร์ท ตำรวจไม่บุกหลังถ่ายทอดสด วิธีกันตำรวจไม่ให้เข้ามามี 2 ขั้นตอน

  • เลือก Ruse ยามหน้าห้องออกอากาศ
  • ยิงพนักงาน เพราะถ้ามันรอด มันจะไปเรียกตำรวจ

20. A Glimpse of Jericho (Public Enemy): ถ้าข้างบนผิดแผน ไซม่อนจะโดนยิง ไม่ได้โดดร่มลงโพชินกิไปกับมาร์คัส เผอิ๊ญ คอนเนอร์ดันขึ้นไม่เข้าไปสอบสวนแอนดรอยด์ในครัว ขึ้นมาดาดฟ้าซะงั้น ซึ่งการได้ถ้วยคือ คอนเนอร์ต้องวิ่งฝ่ากระสุนไซม่อน แล้ว Probe ไซม่อนซะ แต่น่าเสียดายคือถ้วยนี้ก็ต้องแลกกับไซม่อนฆ่าตัวตาย

21. Send a message (Capitol Park): หลังจากปลุกเหล่าแอนดรอยด์ในสไตร์ Cyberlife แล้ว ก็ถึงเวลาส่งข้อความให้มนุษย์ เลือกได้ว่าจะส่งแบบสันติหรือรุนแรง ถ้วยนี้คือสายสันติจ่ะ แอคชั่นต่างๆที่พึงทำเพื่อสันติคือ ยิงเลเซอร์แท็กรูปปั้น หน้าต่าง ม้านั่ง, แฮกป้ายรถเมล์ ไฟถนน ป้ายบิลบอร์ด, เข็นรถขวางทาง

22. Burn the place (Capitol Park): ถ้วยนี้สำหรับสายระเบิดภูเขาเผากระท่อม ตรงข้ามกับข้อเมื่อกี๊ทุกประการ พังข้าวของ ทุบกระจก เผารถ ดับไฟ หนาวเบิ๋นเบบี้เบิ๋นนน

23. Stand your ground (Freedom March): เมื่อเกิดการชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป แน่นอนว่าตำรวจก็บึ่งมาเพื่อสลายการชุมนุม ณ จุดนี้ เราต้องยืดหยัด! แล้วลุยค่ะ Sacrified yourself แต่จะทำแบบนี้ได้ ต้องมีไซม่อนกับจอห์นเป็นตัวแทงค์นะ(หุ่นยามที่เราพามาตอนบุกคลังไปขโมยของ)

24. Confrontation (Freedom March): หากเราทนเห็นผองพวกโดนยิงตายไม่ได้ ก็บวกแม่งเลยค่ะ นอกนั้นก็รัว QTE ให้รอดเหมือนเดิม

25. Nothing to see here (Midnight Train): หลังจากที่โรสออกไปข้างนอก ตำรวจเสือกมาสงสัยบ้านนี้ คาร่าต้องซ่อนหลักฐานต่างๆที่สาวไปถึงแอนดรอยด์ที่โรสรับช่วยไว้ให้มิดชิดที่สุด ถ้าตำรวจไป ถ้วยปลด

  • สิ่งที่ต้องซ่อน: หน้าปกนิตยสาร ให้เปลี่ยนกลับไปเหมือนตอนแรกก่อนจะอ่าน, เสื้อแอนดรอยด์, ปิดประตูห้องเก็บถุงเลือดฟ้า, ปิดประตูห้องที่แอนดรอยด์อยู่
  • พาลูเธอร์กับอลิซขึ้นไปหลบข้างบน เตี๊ยมกับอดัมให้เรียบร้อย
  • รับมือตำรวจ: บอกเรื่องอลิซไปเลย เพราะคาร่าจะเนียนว่าอลิซคือลูก, ตอแหลว่าไม่มีแอนดรอยด์, แก้ต่างอดัมให้ได้

26. Priorities (Meet Kamski): แคมสกี้ให้คอนเนอร์ทำ Kamski test โดยการยิงหัวโคลอี้แลกความจริง 1 อย่าง ถ้าแคร์ภารกิจก็เป่าไปหนึ่งดอกจ่ะ (แล้วเลือกถาม 1 ข้อ)

27. Kinship (Meet Kamski): จาก Kamski Test ถ้วยนี้ห้ามยิงโคลอี้ แม้เราจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย แต่ได้ความเอ็นดูจากแฮงค์ไปเต็มๆ

28. Bloodhound (Last Chance, Connor): คอนเนอร์ลงไปที่ห้องเก็บหลักฐานเพื่อหาตำแหน่งของ Jericho ภายในเวลา 5 นาที สามารถเลือกหาได้จากของต่อไปนี้

  • Carlos’s Android: ถ้าตอนสอบสวน เราสอบสวนสำเร็จและทำให้เจ้าหน้าที่พากลับเข้าห้องขังได้ปกติ มันจะใบ้มาว่า ‘Something inside’ ให้เราสำรวจรูปปั้น ทุบรูปปั้นให้แตกแล้วจะเจอกระดาษบอกตำแหน่ง Jericho ข้างใน
  • Rupert: ถ้าเราเลือกตามจับรูเพิร์ทได้ มันจะโดดตึก ทำให้พูดไม่ได้ แต่เราสามารถโหลดคีย์ถอดรหัสเขาวงกตในสมุดบันทึกของรูเพิร์ทได้
  • JB300 or Simon: หุ่นจะตาบอดแต่ยังแยกเสียงได้ ให้เปิดคลิปสปีชมาร์คัสแล้วเลียนเสียงเอาไปหลอกให้ส่งโลมาให้คอนเนอร์
  • Blue-haied Traci: หลังจากที่เรายิงคู่รักไปแล้ว ตัวผมแดงจะรีบูทไม่ได้ แต่ผมน้ำเงินทำได้ ให้ถอดหัวตัวแดงไปหลอกเอาโลจากตัวน้ำเงิน (อันนี้คืออีน้ำเงินหลงผัวหน้ามืดตามัวสุด เห็นแค่หัวก็ยอมเค้าหมด กูจะบ้า)
ชะตาของคอนเนอร์ขึ้นกับความเร็วในการหา Jericho ของท่านแล้ว
ภาพประกอบเพื่อยืนยันว่านางหลงผัวหน้ามืดตามัวจริง ไม่เนียนขนาดนี้ยังจะไปโดนเขาหลอกอีก

29. Three at Jericho (Crossroads): ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เล่นคอนเนอร์ คาร่า มาร์คัสให้รอดมาถึงอีพีนี้ก็พอ

30. Scorched Earth (Crossroads): เมื่อ Jericho ถูก FBI ลอบโจมตี ทางเดียวที่จะช่วยพวกหุ่นให้รอดได้คือระเบิดเรือทิ้งซะ

  • ถ้ามาร์คัสยังอยู่ ลงไปให้ถึงท้องเรือ จัดการพวกทหารแล้วกดระเบิด
  • ถ้ามาร์คัสตาย ส่งคอนเนอร์ไปแทนได้ แต่คอนเนอร์ต้องเป็น Deviant ก่อนนะ

31. Liberation (Battle for Detroit-Revolution): “หากมนุษย์ต้องการสงคราม เราก็จะจัดให้!!” งานระเบิดภูเขาเผากระท่อมส่งท้ายเกม มาร์คัสเลือกการบุกทำลายแคมป์รีไซเคิลแอนดรอยด์ และต้องรอดเท่านั้น ห้ามตายทั้งทหารยิงหรือแพ้คอนเนอร์ (กรณีคอนเนอร์ไม่เป็น Deviant)

ใครสายบวกก็ลุยแม่งเลย!!!

32. Moral Victory (Battle for Detroit-Demonstration): ทางเลือกของเหล่าสายสันติ ซึ่งได้ถ้วยนี้คือ Public Opinion ต้องอยู่ในระดับ Supportive ขึ้นไปเท่านั้น ปธน. วอร์เร็นจะสั่งให้ทหารถอยทัพ โดยอาศัยพฤติกรรมก่อนหน้าคือ

  • ช่วงบุก Stratfort Tower: ห้ามยิงใครหน้าไหนก็ตาม ทั้งยามและพนักงาน
  • ใน Capitol Park: เลือกส่งข้อความแบบ Pacifist และห้ามฆ่าตำรวจ
  • ช่วงตำรวจสลายการชุมนุม อย่าเข้าบวกกับตำรวจ
  • ช่วงเลือกการปฏิวัติ ให้เลือก Demonstration เดินขบวนประท้วงหล่อๆไป
  • สุดท้ายและท้ายสุด เมื่อถูกทหารต้อนจนมุม เลือกร้องเพลง Hold on หรือจูบนอร์ธ
ใช่ค่ะ และดิชั้นก็เลือกให้มาร์คัสจูบนอร์ธ

33. Escape Death (Battle for Detroit-Kara Captured): หากคาร่าและอลิซหนี FBI ไม่ทัน หรือสเต๊ยแตกตอนลอบหนีไปขึ้นรถบัส ก็จะถูกจับส่งแคมป์รีไซเคิล เราต้องพาคาร่า อลิซ พ่วงด้วยลูเธอร์ ถ้ายังไม่ตาย ใครเล่นรูทนี้ได้ต้องใจแกร่งสัสอ่ะ เพราะมันบีบใจมากและสงสารตัวละครมาก ส่วนวิธีหนีออกจากแคมป์เล่นได้ 2 วิธี

  • Demonstatrate: คาร่าต้องใช้ราล์ฟหรือเจอรี่(หุ่นที่สวนสนุก)ไปล่อทหารเปิดช่องให้เราพาอลิซกับลูเซอร์ลอดรั้วหนีไปขึ้นรถบรรทุก ระหว่างนั้นก็หลบโดรนให้ดีแล้วสู้ทหารให้ชนะละกันนะ
  • Revolution: อันนี้ถึงแม้จะไปหาอลิซได้ แต่ในเมื่อมาร์คัสบุกทลายแคมป์ ภาพจะตัดให้เรารอดอัตโนมัติเพราะทหารตายหมด ไม่ต้องลำบากพาหนีอีกต่อ

34. Safe Harbor (Battle for Detroit-Kara leaving Detroit): ถ้ารอดจากการถูกจับกุม ก็มุ่งหน้าไปขึ้นรถบัสข้ามชายแดน ผ่านด่านตรวจก่อนแล้วจะเจอพ่อแม่ลูกที่สถานี เขาจะทำตั๋วหล่น คาร่าเก็บตั๋วได้ และ “ห้ามคืนตั๋วเด็ดขาด!!!” หากคุณคิดว่ามันจบแล้ว ยังค่ะ! เพราะเราจะติด ตม อีกที อันนี้ขึ้นอยู่กับมาร์คัสแล้วว่าเลือกสายไหน — แปะตัวเลือกประกอบการตัดสินใจ อีแม่ที่ทำตั๋วหล่นมันเคยทำร้ายมาร์คัสค่ะ คนอย่างมึงจงอยู่อย่างทรมานในดีทรอยต์ต่อไป ฮ่าๆๆ

  • ถ้าสันติ ไม่ต้องส่งใครไปตาย ตม. จะสงสารพวกคาร่า อ่ะผ่านฉลุย เวลคั่มทูแคนาดา
  • แต่ถ้ามาร์คัสเดินสายบู๊เมื่อไหร่ อันนี้ต้องส่งใครคนนึงไปตายจริงๆเพื่อดึงความสนใจค่ะ ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าส่งเจอรี่จะดีที่สุด

35. An Army of me (Battle for Detroit-At the Cyberlife): คอนเนอร์ร่าง Deviant ของเราเล่นใหญ่มาก บุกไปบริษัทเพื่อไปแฮกมวลมหุ่นมาเข้าพวกตัวเอง อันนี้ก็ไม่มีอะไร ปราบคอนเนอร์ปลอมแล้วไป Convert ฝูงแอนดรอยด์ จบ

36. Mission Complete (Battle for Detroit-Connor’s Last Mission): ถ้าหากคอนเนอร์ยังคงสถานะ Machine ก็จะได้รับภารกิจการกำจัดหัวหน้า Deviant (มาร์คัส/นอร์ธ) ก็ปราบทั้งมาร์คัสกับนอร์ธให้ตายก็เป็นอันปลดถ้วย

  • แนะทริกช่วยเก็บถ้วยนี้ง่ายขึ้นโดยไร้การปะทะ QTE ฆ่ามาร์คัสก่อนที่จะถึงตอนสุดท้าย ให้นอร์ธเป็นหัวหน้าแทน เพราะเกมจะตัด Fight Scene ออกไปเลย หากท่านโดนไม่แฮงค์หรืออัลเลนเข้ามาขวางตอนตั้งสไน ให้โดดตึกตายไปเลยจ่ะ แล้วคอนเนอร์ตัวใหม่ก็จะไปยิงนอร์ธในห้างขายหุ่นเอง เป็นอันจบภารกิจ
  • แต่ช้าก่อน ถึงแม้จะเลือกรูท Deviant ก็สามารถปลดถ้วยได้ ถ้ามาร์คัสชนะการประท้วง/สงคราม จะได้ขึ้นไปยืนปราศัยบนเวที คอนเนอร์ดันโดนอแมนด้าคุมโปรแกรมอีกรอบ เราต้องพาคอนเนอร์ไปกดสวิตช์หยุดโปรแกรมฉุกเฉินที่แคมสกี้ทิ้งไว้ให้ แต่ถ้าไปไม่ทัน คอนเนอร์จะควักปืนออกมายิงมาร์คัสตายคาเวที ปลดถ้วยได้เหมือนกัน
Amanda you EDOK!!! มาใช้คอนเนอร์เสร็จแล้วก็ทิ้งไปหารุ่นใหม่ อีสัสนาโร้ก

37. My turn to decide (Battle for Detroit-At the Cyberlife): จากข้างบนที่อแมนด้าเข้าควบคุมคอนเนอร์ อันนี้จะปลดเมื่อคอนเนอร์กดสวิตช์หยุดโปรแกรมฉุกเฉินสำเร็จ (แถมได้กอดจากตาแฮงค์เป็นของแถมด้วย :D)

  • บอกบุนทางลัด ในสวนเซนปกติเราจะข้ามสะพานมาตรงนี้ แต่ว่ากลางพายุหิมะ เรามามารถลัดเบี่ยงมาทางขวาได้ เดินเบี่ยงขวามาไม่ไกลก็เจอซุ้มสวิตช์เลย ไม่ต้องอ้อมไกลเสียเวลา

38. Compliant (Crossroad-Connor): เมื่อมาร์คัสให้คอนเนอร์ตัดสินใจเลือกข้างว่าจะยอมเป็นเครื่องจักร(Remain a machine)หรือเป็นสิ่งมีชีวิต(Became a deviant) ชั้นไม่ยอมหลงกลแกหรอก กดป้าบ เป็นหุ่นต่อ

39. One of Us (Crossroad-Connor): ถ้าเริ่มเห็นคอนเนอร์เป็นมนุษย์หรือหมั่นไส้อแมนด้าก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คอนเนอร์จะต้องเป็นเครื่องจักรอีกต่อไป ทลายกำแพงเข้า Deviant Zone ไปจุกๆจ่ะแม่ การจะปลดล็อคเส้นทางนี้ได้ ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Software Instability จากการกระทำก่อนหน้าของคอนเนอร์ด้วย

  • รหัสฟ้า: หากเลือกการกระทำที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ เช่น ปล่อยปลา, ช่วยแฮงค์, ขวางไม่ให้ตำรวจทำร้ายหุ่น, ไม่ยิงใครเลย, Probe the memory เอาง่ายๆก็คือทำตัวเป็นคนดี เพิ่มความเป็นมนุษย์มากขึ้น ในที่นี้รวมไปถึงคอนเนอร์ต้องไม่ตายด้วย หรือตายให้น้อยที่สุด การสร้างความสัมพันธ์กับแฮงค์ไปในทางที่ดีขึ้นก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความไม่เสถียรแก่โปรแกรม เอาง่ายๆก็คือเอาใจตาแฮงค์เยอะๆ ซึ่งถ้าตลอดการเล่นรหัสฟ้าขึ้นเยอะ จนถึงจุดหนึ่ง รูทจะปลดให้เลือกทันที
  • รหัสแดง: หากเลือกการกระทำที่ไม่แคร์เวิลด์นอกจากภารกิจที่ได้รับ จับ ฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงความสัมพันธ์ของแฮงค์ในด้านลบ และการที่คอนเนอร์ตายบ่อยๆก็เพิ่มโอกาสตรงนี้สูงไปอีก หากเจอแต่รหัสแดงมากๆเข้า ก็จะปิดรูท Deviant ไปอัตโนมัติ
ชะตา Good or Bad Ending ของคอนเนอร์ก็อยู่ที่สีนนี้แล้วจ่ะ

กลุ่มถ้วย Silver

  1. Undefeated: ในซีนบางซีนก็จะมีฉาก Fight Scene ในรูปของ QTE การจะได้ถ้วยนี้คือต้องรัว QTE ให้ทันหรือพลาดน้อยที่สุดเพื่อให้ชนะคู่ต่อสู้ ห้ามแพ้แม้แต่ครั้งเดียวตลอดหนึ่งรอบเกม — แนะนำให้พยายามเดินสายสันติ เลี่ยงการปะทะให้มากที่สุดเพื่อลดความหัวร้อนของตัวเอง
  2. Bookworms: อภิมหาถ้วยที่เก็บยากและจุกจิกสุด ในเกมจะมี Collectible เป็นนิตรสารอิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่มมีสองเรื่อง สไลด์อ่านทั้งสองเรื่องแล้วมันจะไปเก็บในโซน Extra > Magazines ซึ่งการจะเก็บถ้วยนี้ เราไม่สามารถเก็บทั้งหมดได้ใน 1st Run เพราะบางอันมันจะขึ้นกับเหตุการณ์หลักที่เราเลือกอีก! ในส่วนของลายแทงหนังสือ ขอยกเป็นอีกบทความนะคะ ถ้าเขียนทีเดียวในนี้ได้ยาวแน่ๆ สำหรับลายแทงกดที่คำว่า Bookworms ได้เลย
  3. Partners: รักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ของคอนเนอร์กับแฮงค์ให้ได้ระดับ Friend ก่อนเกมจบ (Tense ก็ไม่ได้เด้อ) **คอนเนอร์ต้องเป็น Deviant เท่านั้น
  4. Happy Family: เล่นคาร่า อลิซ ลูเทอร์ รอดจนจบเกม จะผ่านตมแคนาดาแบบไม่ส่งใครหรือส่งเจอรี่ก็ได้ หรือจะไปหนีตายในแคมป์ก็ไม่ว่ากัน แต่จบเกมแล้วต้องรอดครบทั้ง 3 คน
  5. I’ll be back: สุดยอดแห่งความ Asshole ของคอนเนอร์ กับเงื่อนไขที่คอนเนอร์ต้องตายและกลับมาทุกครั้งที่มีโอกาส (WTF!?) ซึ่งนับแล้วต้องตาย 8 ครั้ง ซึ่งตาแฮงค์ที่เจ็บปวดจากการสูญเสียลูกชายอย่างไม่มีวันกลับ แต่พอมาเห็นคอนเนอร์ตายแล้วฟื้นๆ(เพราะถ้าคอนเนอร์เก่าโดนทำลาย Cyberlife ก็จะส่งคอนเนอร์ใหม่มาเรื่อยๆ) ถ้วยนี้จะปลดล็อคเมื่อแฮงค์ลาออกจากตำรวจแล้วเล่นรัชเชี่ยนรูเล็ทฆ่าตัวตายในบ้านตัวเอง(Night of the Soul) ซึ่งสูตรการฆ่าคอนเนอร์ก็มีดังนี้
  • The Hostage: เดินสายพระเอกตามที่บอกในตอนแรก Sacrified Self โลด
  • The Interrogation: ให้ Probe memory ให้อัตราการทำลายตัวเองของหุ่นผู้ขึ้นไป 100% ตอนตำรวจจะมาหยุดไม่ให้หุ่นเอาหัวตัวเองโขกโต๊ะ ให้คอนเนอร์เข้าไปขวาง หุ่นจะแย่งปืนตำรวจมายิงแสกหน้าคอนเนอร์แล้วยิงตัวเองตายตาม
  • On the Run: คอนเนอร์ไล่ตามคาร่าบนทางด่วน ตอนแฮงค์ห้ามไม่ให้เราตามคาร่าไป ให้กด GO เพื่อปล่อยคอนเนอร์ลงทางด่วน จากนั้นวางจอยจ่ะ นั่งดูคอนเนอร์โดนรถบรรทุกเสยตายไปเอง
  • The Nest: หากไล่ล่ารูเพิร์ทมาถึงช็อตสไลด์หน้าต่างแล้วต้องโดดข้ามตึก วางจอยเหมือนกัน คอนเนอร์จะกระโดดพลาดแล้วเกาะขอบหน้าต่างไม่ได้ ตกตึกลงไปม่องเท่งตามระเบียบ
  • The Bridge: ตามวิธีปลดถ้วย Just a machine
  • Public Enemy: คอนเนอร์ไปสอบสวนหุ่น JB300 จนกระทั่งโดนหุ่นโจมตีควักตัวจ่ายพลังงานออกแล้วเอามีดปักมือ มี 2 ทางเลือกให้คือ รอจนเวลาหมดให้คอนเนอร์ชัตดาวน์ หรือ ดึงมีดออกเอาตัวจ่ายยัดกลับทัน วิ่งตามหุ่นออกไปแล้วเอาตัวบังกระสุน จบม่องรอบที่ 6
  • Last chance, Connor: ก่อนคอนเนอร์จะเข้าห้องเก็บหลักฐานจะเจอเควินก่อน ให้กด Leave ไม่คุยกับมัน เควินจะสงสัยแล้วตามไปแอบดูจนคอนเนอร์แกะรอย Jericho ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็สู้กัน วางจอยเหมือนเดิม
  • Crossroad: ทำได้เมื่อคอนเนอร์เป็น Machine เท่านั้น ตอนที่คอนเนอร์กำลังตามหามาร์คัสจะเจอตำรวจมาขวาง ให้ Attack or Flee วางจอยดูคอนเนอร์โดนตำรวจเป่ากบาลตาย อันนี้ไม่แน่ใจว่านับด้วยมั้ย มันจะมีอีกกรณีนึงที่ฆ่าคอนเนอร์ได้คือ ถ้าจัดการทหารได้ คอนเนอร์จะตามไปเจอมาร์คัสในห้องกดระเบิด สองคนนี้จะสู้กันแล้วมาร์คัสไปหยิบปืนทัน มาร์คัสจะยิงคอนเนอร์ตาย หลังจากตรงนี้ถ้วยจะปลดให้ในอีพี Night of the Soul หลังแฮงค์ฆ่าตัวตาย
  • ในส่วนของ Battle for Detroit เป็น Optional Choice เราฆ่าคอนเนอร์ก็ได้หรือปล่อยไปก็แล้วแต่ แต่ถ้าจะฆ่าก็มีอีก 2 เหตุการณ์
  • ในตอนที่คอนเนอร์ตั้งปืนสไนจะสอยหัวหน้า Deviant ผู้กองอัลเลนจะเข้ามาขวาง (หากเป็นรูทอื่นที่แฮงค์ไม่ฆ่าตัวตาย แฮงค์จะมาขวางแทน) จะมี 2 ทางเลือกคือ Flee คอนเนอร์โดดตึกตาย หรือ Fight จะฆ่าอัลเลน ถ้าเลือกช้อยหลังก็วางจอยไป
  • หลังจากตายบนดาดฟ้าแล้ว คอนเนอร์ตัวใหม่จะโผล่มาขวางในดงสงคราม ถ้ามาร์คัสยังไม่ตาย เกมจะให้เลือกว่าเป็นมาร์คัสหรือคอนเนอร์ เลือกคุมมาร์คัส กด QTE ให้ทัน หรือถ้าเลือกคอนเนอร์แล้ววางจอยไปเลยก็ได้ คอนเนอร์โดนฆ่าทั้งคู่ ในกรณีที่นอร์ธเป็นหัวหน้า Deviant คอนเนอร์จะไปหานอร์ธที่ห้าง จะมีช้อยให้เลือก Shoot or Spare ไม่ต้องเลือก ปล่อยให้เวลาหมด แล้วต่างคนจะต่างยิงตายห่ากันทั้งคู่ จบ

กลุ่มถ้วย Gold

  1. This is my story: ถ้วยโกลด์พื้นฐานที่ทุกคนจะได้อัตโนมัติหลังเล่นเกมจบรอบแรก ไม่ว่าจะได้ Ending แบบไหนก็ตาม
  2. These are our stories: ในการเล่นจบแต่ละ Chapter จะมีสิ่งที่เรียกว่า Bonus Point ยิ่งสำรวจมาก ก็จะได้แต้มมาก เจ้าแต้มเนี่ยก็จะสามารถใช้สิ่งไอเท็มพิเศษในส่วน Extras ได้ ก็จะมี Artworks(ชุดละ 300), Videos(คลิปละ 300), Soundtracks(เพลงละ 300) และ Gallery (Character ต่างๆในเกมตัวละ 150) เงื่อนไขของถ้วยนี้คือ ใช้ให้ครบ 20,000 แต้ม แนะทริกง่ายๆ ถ้าอยากจ่ายทีเดียวจบเช็คแต้มง่ายๆ ก็เล่นให้ถึง20,000โดยที่ยังไม่ต้องใช้กลางเกม ละค่อยเปย์รวดเดียวตอนจบ
  3. Survivors: ตัวละครหลักทั้ง 9 ของเรื่องต้องรอดจนจบเกม (คอนเนอร์ แฮงค์ คาร่า อลิซ ลูเธอร์ มาร์คัส นอร์ธ จอช ไซม่อน) ทริคการช่วยตัวละครต่างๆก็จะประมาณนี้
  • คอนเนอร์: เลือกเป็น Deviant และต้องกดสวิชต์ทางออกฉุกเฉินให้ได้
  • แฮงค์: ความสัมพันธ์ต้องอยู่ในระดับ Friend
  • คาร่า: ตัวละครที่เกิดครั้งเดียวตายก็หายไปเลย จะเล่นยากเป็นพิเศษ จึงไม่มีอะไรมากนอกจากเล่นให้รอด จบ
  • อลิซ: จงปกป้องอลิซอย่างดีที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
  • ลูเธอร์: ตัวละครที่โคตรพ่อโคตรแม่จะตายง่ายและจุกจิกสุด ต้องช่วยลูเธอร์ทุกครั้งที่มีโอกาส และที่สถานีรถบัส ตอนที่เก็บตั๋วได้ “ห้ามคืนตั๋วเด็ดขาด” เพราะการคืนตั๋วจะทำให้เราต้องนั่งเรือข้ามฟาก ซึ่งเป็นการปัก Death Flag ให้ลูเธอร์แล้ว ตำรวจลาดตระเวนมาไม่ว่าช้อยส์ไหนลูเธอร์ก็ตายหมด
  • มาร์คัส: ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ทั้งเหตุการณ์เดินขบวน กดระเบิดเรือ สู้กับทหารไม่ว่าสันติวิธีก็ดีหรือทำสงครามก็ดี ต้องสำเร็จทุกครั้ง แนะนำว่าควรมีจอห์นเพื่อเลี่ยงการส่งไซม่อนไปตายตอนสงครามเดินขบวน (สำหรับวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาทีม Jericho ให้อยู่ครบทั้งทีมคือเลือกสายสันติค่ะ)
  • นอร์ธ: ตอนหนีในเรือ Jericho มาร์คัสต้องช่วยนอร์ธ
  • จอช: นอกจากจะเข้าไปช่วยจอชตอนโดนทหารอัดแล้ว ห้ามเลือก Revolution เพราะรูทนี้ปัก Death Flag ให้จอชกับไซม่อนจ่ะ
  • ไซม่อน: ตัวละครที่โคตรพ่อโคตรแม่จะตายง่ายและจุกจิกพอๆกับลูเธอร์ เริ่มจาก Stratfort Tower พยายามอย่าให้ไซม่อนโดนยิงเพราะจะไปกับเราไม่ได้ หรือเลี่ยงไม่ได้ ตอนคอนเนอร์มา ให้พาคอนเนอร์ไปห้องครัวแทน ไซม่อนจะกลับมา Jericho ได้ ส่วนของเดินขบวน นี่ไงถึงบอกว่าต้องมีจอห์น เพราะถ้ามาร์คัสเลือก Sacrified self เมื่อไหร่ ไซม่อนจะกระโดดเข้าไปรับตีนแทนมาร์คัสตายห่าไป และส่วนของศึกตัดสิน อย่าไปสายสงครามเพราะอย่างที่บอก เลือกสายนี้ทั้งจอชกับไซม่อนตาย 100%
คอนเนอร์กับแฮงค์รอด
คาร่า อลิซ ลูเธอร์รอด
ก๊วน Jericho รอดยกทีมก็จะแบบนี้

จบไปกันแล้วนะคะสำหรับแนวทางการเก็บแพลตตินั่มเกม Detroit: Become Human ถึงจะแนะทริคแบบถึงพริกถึงขิง แต่ขอฝากไว้นิดว่าหากอยากอินเนื้อเรื่องด้วยตัวเอง ก็ลองคลำๆเล่นๆกันเองเพื่ออรรถรสและความอินที่มากขึ้นนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

We are alive, and now WE ARE FREE!!!

Markus, 2038

Internship in the Backyard

Real Deploy: 31 Jul 2019

มหกรรมซัมเมอร์ฝึกงานของนักศึกษาปี3 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

เป็นเรื่องปกติกันอยู่แล้วที่ก่อนจะขึ้นไปเผชิญสิ่งไม่เล็กที่เรียกว่า “โปรเจกต์จบ” ทุกคนต้องผ่านการฝึกงานก่อน ใครจะจบไม่จบก็ขึ้นกับการผ่านฝึกงานด้วย

เราเองก็เป็นหนึ่งในเด็กเพิ่งจบปี3และก็ต้องฝึกงานเหมือนกัน ซึ่งเราได้ไปฝึกงานกับบริษัทสตาร์ทอัพย่านสาทรคือบริษัท Backyard ตำแหน่ง Front-End Developer


เดินเข้าบริษัทวันแรก

อย่าลืมซ้อม Vue มานะ

ฉันยังคงจำได้ ณ วันที่มาสัมภาษณ์ที่นี่ ที่บริษัทนี้เน้นใช้ Vue.JS เป็นหลักในการพัฒนาเว็บไซต์ อ่ะ ไปฟาร์มมา ลงคอร์สเรียนอะไรตั่งต่าง เอาจริงๆก็คือ D-DAY แล้วยังเรียนไม่จบด้วย เอาวะ เรียนไปทำงานไปก็ได้

คือก็พอนึกภาพออกแหละว่าบริษัทสตาร์ทอัพก็จะคนน้อยๆ ทำงานเป็นทีมเล็กๆ มี Meeting ทุกเช้า ก็ตามที่คิดจริงๆแหละ แต่ที่มากกว่านั้นคือ พี่ต้อนรับเป็นกันเองและอบอุ่นมาก ทุกคนพร้อมช่วยเหลือเราตลอดเวลา พูดสั้นๆก็คือพี่ใจดีอ่ะ เออ จบ

ส่วนตัวบริษัทก็บรรยากาศน่าทำงานมาก (จริงๆก็หลงรักที่ทำงานตั้งแต่วันมาสัมละแหละ) มีแคนทีนที่เต็มไปด้วยอาหารและขนม มีห้องอาบน้ำห้องนอน ห้องทำงานไม่ใหญ่ ทำงานสื่อสารกันได้ทั่วถึง

บอกเลยว่าเดินเข้าบริษัทวันนั้นคือเข้าไปด้วยเอเนอจี้ไฟลุก แบบพี่ให้หนูทำอะไรโยนมาเลยค่ะ หนูพร้อมหมด!!!

วันนั้นทั้งวันดีหมด ยกเว้น …คอมค่ะ ลง Docker ใน Linux Subsys ไม่ได้ และใช่ค่ะ ต้องลงเอยด้วยการลง Ubuntu ยัดลงไปอีก OS

…กูเสียเวลาหัวร้อนมาทั้งวันเพื่ออะไร…

สภาพโน้ตบุ๊คตอนนี้ก็จะประมาณนี้ //ไส Trello รัวๆ

First Month Summary

รู้ซึ้งถึงคำว่าเวลาผ่านไปไวมากๆก็ฝึกงานนี่แหละ ช่วงทำงานภาคคือยังไม่ไวเท่านี้ ชีวิตฝึกงานเดือนที่ผ่านมาคือวนๆแต่

ตื่น >> โหนรถไฟฟ้าเข้ากรุง >> ทำงาน >> กลับบ้านกลับหอ >> เล่นเกม >> นอน

โอโห้ ไม่ต้องพูดถึงเสาร์อาทิตย์เลยค่ะ กระพริบตาแป๊บเดียวหมดวัน ผ่านไปไวเหมือนมึงตัดหน้ากู เข้าใจคนทำงานที่ไม่ prefer วันจันทร์เลย แค่เห็นคนเบียดกันในรถไฟฟ้ากำลังใจการทำงานก็หดไปแล้วครึ่งนึง

PS. อาจจะสงสัยว่าทำไมไม่หาหออยู่แถวนั้นไปซะเลย คือเห็นว่าฝึกงานแค่สองเดือน บวกกับคมนาคมยังเข้าถึง สามารถเดินทางได้ ก็อ่ะ ทนๆเอา

บ่นขิงบ่นข่ามาเยอะละ เข้าเรื่องละกันว่าดิชั้นได้อะไรจากการฝึกงานครึ่งแรกบ้าง

ได้เรียนรู้การทำงานจริง

มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้วว่ามันได้แน่ๆ ก็คือเป็นการฝึกว่าเวลาไปทำงานจริงๆ (โฟกัส Startup only) ต้องเจออะไรบ้าง

  • ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ต้องทำงานร่วมกับฝ่ายอื่น ต้องปรับตัวให้เร็ว
  • นั่งโค้ด เจอบั๊กหัวร้อนระเบิดโค้ดแก้บั๊ก คุ้ย StackOverflow งม Documents ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
  • สื่อสารกับคนในทีม: เนื่องจากว่าเราทำงานเป็นทีม การสื่อสารกันภายในทีมสำคัญ เพราะพวกนี้แหละที่จะร่วมเป็นร่วมตายกับเราในโปรเจกต์ที่พี่ๆ(โยน)มาให้ทำ
  • ประชุมงาน: ปกติบริษัทจะมี Standup Meeting เพื่อพูดคุยหรือ follow-up ว่าเป็นยังไงบ้าง ถึงไหนแล้ว จะทำอะไร บางทีก็มอบหมายงาน(งอก)มาให้ปวดหัวเล่น
  • คุยกับลูกค้า: คือก็ไปคุยกับลูกค้าเพื่อจะได้รู้ว่า requirement จริงๆคืออะไร เราต้องทำอะไร แต่เอ…เรายังไม่เคยไปคุยกับลูกค้าจริงจังเลยแฮะ
  • ได้รู้ Flow ในการทำเว็บ: เราเป็น Front-End ใช่มะ แต่มันไม่ใช่แค่เขียนโครงเว็บเขียน JS เฉยๆแล้วจบ เราควรรู้อย่างอื่นด้วย เช่น Basic Backend, Basic DB, ***ORM***
  • ได้เรียนรู้และลองทำอะไรหลายอย่างมาก: เป็นเดือนแห่งความจับฉ่าย ได้ลองทำอะไรแปลกๆงงๆ ถึงแม้ว่าพี่ๆจะบอกว่าถ้าไม่ไหวอย่าฝืน ให้บอก แต่ใจมันแบบไหนๆก็มาแล้วก็สู้ให้สุดดิวะ จบด้วยโดนบั๊กตบแล้วตบอีกจนต้องยกคอมไปให้พี่555555

ได้ลง Tools เพิ่มเติมมาเล่นเยอะมากกกกกก

ตั้งแต่วันแรกที่ต้องลง Ubuntu เพราะ Subsys ในวินโด้ไม่เวิร์คจริงๆแก ก็ตามมาด้วยเหล่า Tools/Libs/Programs อีกมากมายที่ต้องลงตามมา หลักๆเลยก็

ใครยาวไปไม่อ่านก็นี่ค่ะ สรุปครบจบในรูปเดียว
  • Docker, Docker-Compose
  • PyCharm (เอาเข้าจริงก็ยังใช้ VSCode ในการ dev อยู่ดี)
  • Python Libs: Flask, Frozen-Flask, BeautifulSoup4, Scrapy
  • Vue + Vue CLI: แน่นอน ต้องมีติดไว้
  • ไม่เกี่ยวกับ Tools หรอก แต่จัดไว้เป็นของใหม่ที่ได้ลองเล่น: UiPath, Gitlab, Azure(Microsoft SQL)
  • อื่นๆ จิปาถะ: Trello, Spotify, etc.

จนตอนนี้ก็คือใช้ Ubuntu แทบจะแทนวินโด้ได้แล้ว แค่เล่นเกมไม่ได้กับตัดคลิปไม่สะดวก

และแน่นอน หมดค่าคอร์สใน Udemy ไปเป็นพันเลยจ้าาาาา บางตัวสำหรับดิชั้นมันอ่านแค่ Docs แล้วไม่พอจริงๆ เลยต้องอาศัยเรียนบ้างในเวลาว่าง/วันหยุด (และไม่ได้ตะลุยเกมมิ่ง)

ได้ลองจับงานหลายๆอย่าง

ขยายความจากข้างบน ก็คือมีความจับฉ่ายหน่อยๆ ไม่ได้มีโปรเจกต์เป็นหลักเป็นแหล่งเท่าไหร่ อารมณ์แบบว่างไม่มีไรทำเหรอ เอาอันนี้ไปทำละกัน ตั้งแต่ทำ Scraping ทั้งจาก UiPath, Web Crawler(Python Scrapy), ทำเว็บจาก Python Flask

เดี๋ยวนะ ไหน Vue ที่ได้ทำ 90% ของทั้งเดือนก็คือ Python ทั้งหมด เป็นงงไปดิ ที่กุซ้อมมาทั้งหมด ยังไม่ได้ใช้ แต่คงได้ใช้ในอนาคตแหละ มั้ง…

ได้ลองจัดระเบียบชีวิตตัวเองใหม่

ระหว่างทำงานก็ไปเจอบทความของคุณ Time.FF เข้า บทความนี้ว่าด้วยการจัด Productive ในชีวิตประจำวันและการทำงานด้วยบอร์ด Trello ก็เลยอ่ะ ลองเอามาเล่นดูบ้าง

ทำไปประมาณเดือนนึงก็พบว่า เห้ย แม่งเจ๋งว่ะ

ก็คือการที่ได้จัดหมวดหมู่ของทั้งงาน อะไรที่เราอยากทำ อะไรที่ต้องทำต้องส่ง มันทำให้ย้ำเตือนเราตลอดเวลาว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ง่ายขึ้น

ทุกวันนี้เราจะเปิดโปรแกรม Trello ขึ้นมาดูทุกเช้า มารีวิวว่าเราทำอะไรเสร็จไปแล้วบ้าง วันนี้ต้องทำอะไร พรุ่งนี้อยากทำอะไรต่อ

ขิงบอร์ดซักหน่อย
ขออภัยในความคาดดำ ตรงนี้เปิดเผยไม่ได้จีๆ
เชื่อมกับ Google Calendar ก็ได้

อวยอะไรไร้สาระบ้าง

พูดเรื่องจริงจังไปแล้ว ก็ขอพูดสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงานบ้าง

  • ออฟฟิศบรรยากาศสวย น่าทำงาน: ก็คืออวยที่ทำงานไปตั้งแต่แรกๆแล้ว มีแบ่งโซนทำงานชัดเจน จัดวางเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งห้องเรียบๆ แต่สบายตา ทีมสามารถสื่อสารกันได้อย่างทั่วถึง แถมมีหนังสือให้อ่านว่างๆด้วย
ดูปลอมเนอะ เออปลอม
  • อาหาร ขนม เครื่องดื่มพร้อม!: เป็นบริษัทที่อาหาร ขนม เครื่องดื่มพร้อมมาก (ก็แน่ล่ะ พี่ๆพาลงเซเว่นไปตุนเสบียงแทบจะอาทิตย์ละครั้ง) แถมมีห้องอาหารที่สามารถซื้อข้าวกลางวันหนีฝูงชนพักเที่ยงขึ้นมาใส่จานกินได้ ระหว่างชั่วโมงทำงานก็สามารถแวะขึ้นมาหยิบขนมไปกินระหว่างทำงานได้เต็มที่ ไฮไลต์ที่สุดของท็อปปิคนี้คือ ปาร์ตี้สิ้นเดือน!!!
จัดเต็มกว่างานก็อาหารนี่แหละค่า

คืออยู่ดีกินดีกว่าอยู่ที่หอ เจริญอาหารเอาๆ ถ้าน้ำหนักขึ้นก็ไม่ต้องสงสัย

  • มีห้องนอนให้!: อีกหนึ่ง Facility ที่ชอบที่สุด เอาไว้สำหรับที่พนักงานที่แบบทำงานแล้วล้ามาก ไม่ไหวแล้ว สามารถไปงีบได้ ซึ่งสำหรับข้าพเจ้าแล้ว ถ้าหาตัวข้าพเจ้าตรง Intern Zone และแคนทีนไม่เจอ สามารถพบตัวได้ที่ห้องนอน
  • พี่ๆทีมงานที่น่ารัก: ชั้นรักเอเนอจี้ของพี่ๆบริษัทนี้มากๆ เขาพร้อมให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลาที่เรามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ดูแลอย่างไม่ถึงกับใกล้ชิด แต่ก็ตามดูเรื่อยๆ มีมาถามไถ่กัน และใช่ค่ะ พาลงไปซื้อของที่เซเว่น55555
  • ได้มีโอกาสกลับไปอยู่บ้าน: ปกติจะอยู่หอไม่ก็ตื่นไปเรียน แต่ฝึกงานนี้คือสลับกลับบ้านบ้างกลับหอบ้าง ไปอยู่กับพ่อแม่ ได้กินข้าวที่แม่ทำ ไปส่งน้องเรียนจุฬาที่สยาม ได้เล่นเกมบ่อยขึ้นจากสัปดาห์ละสองวันเป็นสี่วัน

Summary

ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแค่เดือนเดียว แต่ว่าได้รู้อะไรหลายๆอย่างมาก ได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่คิดว่าถ้าไม่ได้มาที่นี่เนี่ย จะได้เจอได้ทำแบบนี้หรือเปล่า (ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างว่างงานนิดๆ55555555555 ก็ตามสไตล์เด็กมาใหม่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง จะออกแนวช่วยงานพี่ๆมากกว่าให้ทำโปรเจกต์เองทั้งหมด) ก็รอดูเดือนหน้าว่าจะเจออะไรพีคๆมั้ย แล้วจะมาเขียนต่อ

บทจะชิวจะว่างก็ว่างชิบหาย แต่บทงานมาเมื่อไหร่ก็คือหัวไหม้

นี่แค่เดือนแรกทำไมมันเยอะจังวะ


Second Month Summary

เริ่มต้นเดือนใหม่ด้วยการย้ายที่นั่งจาก Intern Zone ไปนั่งทำงานรวมกับพี่ๆซะแล้ว กราฟเดือนนี้จะเริ่มทรงๆเพราะได้จับโปรเจกต์เป็นชิ้นเป็นอัน(ซะที) แต่ก็ยังไม่วายที่บางวันก็มีงานด่วนเร้กๆแทรกมาบ้าง

และตัวที่ทำให้กรี๊ด(ด้วยความปสด)ที่สุดก็คือ

ค่ะ ยกให้ไอ้หมอนี่เป็นสิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดในเดือนนี้ อยากจะกรี๊ดใส่วันละแปดล้านรอบ

ด้วยความที่ตัวโปรเจกต์ต้องรันบน App Service ของ Azure ทำให้นอกจากต้องวนๆกับ Flask แล้ว ต้องแก้โค้ดปรับคอนฟิคเพื่อให้ Deploy ขึ้นให้ได้ ขั้นตอนก็ยุ่งยากซะเหลือเกิน บางครั้งถึงขั้นยกคอมไปหาพี่ให้ช่วยเหลือ พี่ทำแป๊บๆ ก่อนจะพบว่า

อ้าว…แค่นี้เหรอ… แล้วที่กูหัวร้อนมาทั้งหมดคืออะไร

เดือนนี้ไม่มีอะไรจะเม้าจริงๆ เพราะไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ อารมณ์ทำงานวนลูป จะมีก็ช่วงปลายเดือนที่พี่พาลงไปแต๊ะๆ NLP:Lighttag กับได้เล่น Digital Ocean เล็กน้อย งงนิดหน่อยแต่ก็พอถูไถได้อยู่

สรุปล็อตสองของเดือนในรูปเดียว

แต่สิ่งที่น่าโมโหของเดือนนี้คือ อีบีทีเอส ยู อีดอก เสียบ่อยอะไรเบอร์นี้!!!


Internship Summary

2 เดือนแม่งผ่านไปโคตรไวเลยว่ะ…

เป็นการฝึกงานที่ได้อะไรหลายๆอย่างมาก และรู้ว่าตัวเองอ่อนด๋อยเบอร์ไหน ต้องรับผิดชอบงานที่ใหญ่กว่าในมหาลัย ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ ถือเป็นการชาเลนจ์ตัวเอง(ใช่ค่ะ หัวร้อนกับการระเบิดโค้ด) รู้สึกได้ว่าโตไปอีกขั้นจริงๆ พูดง่ายๆคือคุ้มและสนุกมาก (ขนาดไม่ใช่สายงานที่ต้องการ) ความรู้ต่างๆที่ได้รับเป็นอะไรที่ค่อนข้างเปิดโลกและก็หวังว่าจะได้นำไปใช้จริงในอนาคต

จริงๆ สาระสำคัญมันไปกองที่เดือนแรกซะหมด ตรงนี้เลยไม่ค่อยมีอะไร แหะ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่ๆทีมงานที่น่ารักทุกคนที่ดูแลช่วยเหลือและให้คำแนะนำ และเพื่อนๆที่ร่วมแบกกับข้าพเจ้ามาด้วยกัน สำหรับวันนี้ก็ขอจบบล็อคแต่เพียงเท่านี้ ข่อมค่ะ

ปล. ใครที่สนใจฝึกงานบริษัทสตาร์ทอัพก็ขอฝากแบคยาร์ดไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะต๊ะ

ปล.2. ฝึกเขียน Vue เพื่อมาเจอว่าไม่ได้แตะ Vue เลยตลอดสองเดือน /เท

ปล.3. ใครสหกิจต่อก็ยินดีด้วย โชคดีนาจา

-mrggaebsong (a.k.a #RE_PAIR)

Goodbye 3rd year, welcome 4th year.

Real Deploy: 30 May 2019

30.05.2019

ผ่านไปอีกปีแล้วสินะ ปีที่แล้วคือนอนบนตึก อดนอนทำค่าย(เป็นปีที่2) ดีสุดคือกินเค้กวันเกิดที่น้องๆปีแก่เอามาเซอร์ไพรซ

//ข้ามๆมันไปเถอะ

คอนสี่ก็ผ่านไปปีกว่าแล้วน้า ทำไมคอนห้ายังไม่มาอีก

เอาเป็นว่า 1 ปีที่ผ่านมา กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าหลังจากสิ่งมหัศจรรย์อย่างคอน EXO ก็เว้นห่างจากอะไรท้าทายๆไปนานเลยทีเดียว โดยเฉพาะปี3เทอม1คือโบ้มๆมากจนไม่ได้หายใจหายคอเลยพี่จ๋า เทอมต่อมาถึงกับเททุกสิ่งอย่าง ขอโฟกัสเรื่องเรียน(และเกม)พอ //ไม่ขอพูดถึงเรื่องเรียน ซัฟเฟ่อร์เกินกว่าจะเอามาเล่าได้ จะตาย

ก็พอจะสรุปเหตุการณ์เด็ดๆที่เกิดขึ้นในปี 3 มาโดยสังเขปดังนี้

Security Tester at DataCircle

เนื่องจากไม่ได้ถ่ายตอนอยู่ในออฟฟิศ ถ่ายมาแค่ตอนไปนั่งจิบโกโก้ในร้านทรูคอฟฟี่

เรื่องก็เกิดมาจากว่า ตอนกำลังเรียนซัมเมอร์อยู่ อาจารย์ที่เคารพรักก็ทักมายื่น offer ว่ามี exISAG ต้องการคนไปช่วยงานทดสอบระบบแอพของธนาคาร (มีพี่ๆสอนงานให้) สนใจมั้ย

ยอมรับว่าตอนแรกสองจิตสองใจว่าแม่งเอ๊ย ทำดีป่ะวะ คือพึงสำเหนียกว่าความรู้นี่ก็หางอึ่งไง กลัวไปทำขายขี้หน้าเสียชื่อหมด อีกใจก็แบบเห้ย ได้เงินนะ ได้ประสบการณ์นะ ได้ลองทำงานจริงๆด้วย อะไรไม่รู้ค่อยไปเรียนรู้ทีหลังก็ได้

นั่นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นแห่งการก้าวจาก Comfort Zone ครั้งใหญ่ในชีวิต

หลังจากรวบรวมความใจกล้าหน้าด้านมามากพอแล้ว ก็เลยตัดสินใจติดต่อไปสอบถามข้อมูลเลย แล้วก็เกิดมหกรรมการทดสอบความรู้ สัมปากเปล่าทางโทรศัพท์บ้าง Technical Practice บ้าง ในระยะเวลา 1 เดือน จนกระทั่งเข้าที่เข้าทางแล้ว ทางพี่ก็ตอบรับข้อเสนอ เย่ ได้เข้าทำงาน

— PS: เราทำ Playlist Technical Practice ในช่องยูทูปด้วย > DVWA Playground (Ref: root.me and DVWA)

เข้าโหมดจริงจังก่อน: เราได้ทำงานในออฟฟิศของธนาคารแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเศก โปรเจกต์นี้เป็นโปรเจกต์การพัฒนาแอพ ซึ่งเรามีหน้าที่ทดสอบการใช้งานต่างๆในเชิง Security เช่น Input Validation เวลากรอกข้อมูลเพื่อทำรายการ หรือการใช้ SQL Injection เพื่อ Bypass ไปเข้าถึงข้อมูลสำคัญๆของลูกค้าได้ ยันไปถึงการทดสอบด้วย XSS Client-Bypass เพื่อมั่นใจว่าโค้ด JS จะไม่ถูกรันไปโจมตีระบบ จริงๆการทดสอบก็ไม่ได้ยากมาก เพียงใช้ Tool ที่ชื่อว่า Burf Suite ทำ Forward-Intrude-Repeat ไป modify parameter ใน HTML Request เสร็จจดไว้ว่าเจออะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ แล้วส่งไปให้ทีมแอพแก้บั๊กตรงนี้กันต่อไป (โดนทีมแอพสาปส่งหลายรอบมาก หนักสุดคือทำเซิร์ฟล่มเพราะรัน Transaction เยอะเกิน555555555)

โหมดไร้สาระบ้าง: หนึ่งคือภาษา มีอยู่ช่วงนึงจะมีทีมเพนเทสจากมาเลมานั่งทำงานในห้องด้วย ละมีอยู่วันนึง พี่เลี้ยงไม่มา ทิ้งให้นี่อยู่กับมาเลทั้งวัน เลิ่กลั่กถึงขนาดปรับภาษาไม่ทัน ไปสั่งข้าวเป็นอิ้ง55555555 สองคือได้รู้ว่าการเดินทางไปทำงานมันเหน่ยมาก! ตื่นเจ็ดโมงไปขึ้นสองแถวเพื่อไปเบียดคนใน AirportLink ก่อนจะลากสารร่างมาต่อ MRT แล้วเดินเท้าไปถึงออฟฟิศประมาณเกือบ 10 โมง และกลับถึงหอประมาณ 3 ทุ่ม แล้วช่วงนั้นเรียนซัมเมอร์ด้วยก็คื้อ… ซัฟเฟ่อร์มากแม่ช่วยด้วย

แต่โดยรวมแล้ว จัดว่าคุ้มเลยทีเดียว ได้ทั้งประสบการณ์การทดลองงาน เงิน พี่ๆน่ารักมากๆ แถม issue ที่เราเจอถูก raise ในทีมพัฒนาด้วย รู้สึกตัวลอยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็อยากจะแนะนำว่าถ้ามีโอกาสแบบนี้ ไปเถอะ ไปลอง


มหกรรมหาที่ฝึกงาน

เมื่อขึ้นปี3แล้ว 1ใน Todo-List ก็คือ “การหาที่ฝึกงาน” นั่นเองค่ะ ซึ่งเราต้องไปฝึกงานตอนซัมเมอร์ปี3 ไม่งั้นไม่จบได้นาจา

ยื่นไปหลายที่ แต่ก็มีทั้งพลาดเพราะเขาไม่เรียก(Huawei) และจำต้องตัดใจเพราะมาออกผลหลังได้ที่ฝึกงานไปแล้ว(บอกเลยว่าดันเป็น 2 ใน 4 ของ BIG4 อย่าง Deloitte กับ EY โคตรเสียดาย) ที่เรียกไปสัมภาษณ์มีทั้งหมด 3 ที่คือ Seagate, Backyard และ PwC จะรีวิวการสัมภาษณ์งานประมาณนี้

Seagate: ที่แรกที่ติดต่อไป เลือกสาขาเทพารักษ์เพราะใกล้บ้าน ส่งเรซูเม่เป็นงาน Security ตามที่ตัวเองถนัด แต่แล้วก็ต้องแอบเซ็งหน่อยๆเพราะมีแต่แผนก SoftDev อ่ะเอาวะ ลองดู ได้สัมทางโทรศัพท์เสร็จก็ปลงละว่าแม่งเอ๊ย ไม่ติดแน่นอนเพราะไม่ได้มาเวย์นี้ จนกระทั่ง ณ วันที่นี่เป็นสัมที่ Backyard โทรมาหาเราบอกว่าจะย้ายเราไปแผนกอื่น บอกว่ารอหัวหน้าแผนกกลับมาจากตปท และหลังจากวันนั้น…ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการติดต่อจากที่นี่อีกเลย… เส้าจังวะ

Backyard: ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากรุ่นพี่มาว่าเป็นบริษัท Startup ด้าน Data Analytic และ Machine Learning ที่เจ๋งมากๆในไทย น่าเสียดายที่ไม่มีตำแหน่ง Security เลยลงแผนกที่ถนัดรองลงมานั่นก็คือ Front-End Development(ทั้งที่ความรู้ตอนนั้นคือถึงแค่ระดับ JS/JSON ด้วยซ้ำ framework คือไม่คล่องแรงมาก) สัมภาษณ์แบบชิวๆ แต่ก็ไม่ได้ชิวเพราะกังวลพอสมควร (พี่ๆแอบกระซิบมาด้วยว่า “เตรียม Vue มาให้ดีๆนะ :)”) สัมภาษณ์เสร็จ โดนพาไปทดสอบเขียนโค้ดเล็กๆจากเว็บ Codeingame ก็เป็นโค้ดง่ายๆไม่ได้ซับซ้อนอะไร เหนือสิ่งอื่นใดคือออฟฟิศสวยมาก ขนมอร่อย

FYI: Vue.js เป็นไลบรารี่ที่มีการผสมผสานกันระหว่าง Angular และ React เพื่อสร้าง Reactive Component ที่สามารถอัพเดทตัวเองได้ สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถลองศึกษาได้ที่ > https://vuejs.org/v2/guide/

PwC: 1 ในบริษัท BIG4 ด้านการตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ระดับโลก ตอนเมลมาหารอบแรก อีเวนติดสอบไฟนอล เลยจำต้องปฏิเสธไป ปรากฎเมลมาหารอบสองหลังสอบเสร็จไปแล้ว อ่ะ ยิ้มสิคะงานนี้ แถมงานมีตอนเช้า บ่ายไปเซนเวิลพอดี เลยตอบตกลงไป อันนี้เป็นการประเมินความสามารถด้านภาษาก่อนคัดเข้ารอบสัมภาษณ์ ให้ทำข้อสอบภาษาอังกฤษ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น Grammar ยากกว่า TOEIC นิดหน่อยแต่ไม่เกินความสามารถ แต่ด่านสองนี่แหละค่ะของจริง 3 Essays ใน 1 ชม. กูอาคเรียลแบบมึงเอ๊ย ถ้าไม่เจ๋งจริงคือไม่มีทางทำทันกุพูดเรย และใช่ค่ะ คนที่อ่อน writing อย่างข้าพเจ้าก็แพ้ไป ทำไม่ทัน ผลก็ตามคาด ไม่ผ่านไปรอบถัดไป

ถ่ายในออฟฟิศไม่ได้ก็ถ่ายในห้องน้ำนี่แหละ คลาสสิคสุด at PwC

สรุปก็คือได้ฝึกงานที่ Backyard แผนก Front-End Developer ทำเรื่องเอกสารเรียบร้อย เตรียมไปรายงานตัวเข้าฝึกงานอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า เดี๋ยวรู้เรย ความซัฟเฟ่อร์ระหว่างการฝึกงาน หึๆๆๆๆ


มหกรรมล่าสนามแข่งที่บ้าพลังที่สุดในชีวิต

หลังจากลงสนามแข่งล่าสุดก็รอบ Cisco NetRiders ก็ไม่ได้ลงแข่งอะไรจริงจังอีกเลยไปเทอมนึง จนกระทั่งขึ้นปี3 อยู่ๆ Event แข่งต่างๆก็เข้ามาพร้อมๆกัน อ่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นไฟแรง บวกว่างๆเพราะเรียนไม่เยอะ เลยตระเวนเดินสายลงงานอีเว้น รวมแล้วเทอมนั้นลงแข่งไปทั้งหมด 5 งาน!!!

Juniper NXT Gen 2018: เป็นการสอบวัดความรู้ด้าน Network ด้วยข้อสอบมาตรฐาน JNCIA Certification สองรอบแรกเป็นสอบออนไลน์ สอบสามเป็นไฟนอลคัดเอา 10 คนมาแข่งออฟไลน์ ซึ่งผลก็คือตันแค่ที่รอบสอง ถามว่าผ่านมารอบนี้ได้ไงก็งงๆเหมือนกัน เอาเหอะ ได้ชีทมาอ่านเล่นก็โอเคละ

Huawei ICT Competition 2018–2019: การสอบวัดความรู้ทาง Network เหมือนกัน แต่ based on Huawei Device และโฟกัสที่ Routing&Switching, WLAN, Security รอบแรกเป็นสอบออนไลน์(มีให้เรียนออนไลน์ก่อนด้วยแต่เป็น English) ซึ่งได้คะแนนระดับเรี่ยดิน(เกือบๆ500จากเต็ม1000) ก็ไม่น่าจะติดหรอก แต่อ้าว ได้รอบแคมป์ 200 คนเฉย เป็นงง ส่วนแคมป์เป็นการอบรม3วัน เรียน2วัน(เรียนไม่ทันด้วยเพราะเนื้อหาเยอะมากบวกเวลาไม่พอ เลทเยอะ) วันสุดท้ายสอบออนไลน์ คะแนนก็ไม่ต่างจากรอบแรกเท่าไหร่(คอมสอบค้างด้วยชิบหาย) นกทั้งมือถือทั้งใบเซอร์ไปดิ

สรุปสั้นๆ ก็คือเอาเนื้อหา IST ทั้งเทอมมายัดรวมกันในสองวัน ฆ่าฉันให้ตายเถิดหมอ

วิ่งแบบพี่ตูนนนนนนนนนน at Huawei ICT 2018–2019

KPMG Cybersecurity 2018: สองงานบนเป็นแข่งเดียว อันนี้แข่งทีม4คน จัดโดย 1 ในบริษัท BIG4 อย่าง KPMG เดิมทีจะเป็นใช้ข้อสอบคัดเลือกก่อนแล้วค่อยไปแข่งอีกที อันนี้คือรอบแรกตู้ม พามารวมกันหาคนไปมาเลทีเดียวจบๆ การแข่งจะเป็น Jeopardy ธีมล่าหาสมบัติ(flag) มีการคุมตัวละคร สำรวจห้อง หาของ ทักNPC ปกติว่าหา flag ยากแล้ว อันนี้หาโจทย์แม่งก็ยากด้วย วาดแมพกันพรึ่บพรั่บไปหมดละก็ต้องแก็โจทย์ด้วย อุแง้ ละวันนั้นคือ MV Tempo ออก ใจกุไม่อยู่กับการแข่งแน้วจ้า ณ จุดนั้น สรุป จบการแข่งขันด้วยอันดับ 12 และอาหารโรงแรมนี้ไม่อร่อย จบข่าว

ชะนีกลางดงชายฉกรรจ์ในโรงแรมหรู

Thaisftt ICT Cybersecurity 11th: หรือชื่องานเต็มๆก็คือ โคตรการค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเทิดพระเกียรติครั้งที่ 11 (ชื่อยาวไปไหนอิชิบหาย) จัดโดย มสวท TOT G-Able แข่งฝ่าย ICT Cybersecurity แบบทีม 3 คน อันนี้มาธีมแผนที่โลก 1 ประเทศ 1 โจทย์ มีทั้ง Jeopardy ปกติ ความรู้รอบตัว และ Offensive-Defensive แฮคเข้า Server แต่ก็ต้องป้องกันไม่ให้คนอื่นมาแฮกด้วย (แรกๆคือตัดเน็ตจ้า ไม่ให้ใช้เน็ต แบบเคียดกันเลยว่าความรู้รอบตัวกับCryptoกุจาทำยังไง) ครึ่งหลังมี Persent ซึ่งกุบ้งมาก แต่ตอนแข่งรอบแรกดันคะแนนห่างจากทั้งที่1และที่3เกินเบอร์มาก ก็เลยจบการแข่งขันไปในอันดับที่ 2 ได้ตังกินหนมมา 20,000

ป.ล. อาหารงานนี้อร่อยกว่างานข้างบน

ได้ถ่ายรูปลงวารสารคณะไปอีก

Thailand CTF Competition 2018: งานสุดท้ายของเทอม แข่งทีม 3 คน แบบ Jeopardy ไล่หา flag ตามเคย เป็นแข่งแบบออนไลน์ ทีมงานจะปาโจทย์มาตู้มเดียว ให้เวลา 11:00 วันเสาร์ถึง 11:00 วันอาทิตย์ ความตลกก็คือทำได้ 2–3 ข้อแล้วก็เทไปกินชาบูแล้วนอน จบ5555555555555


SEC-GIRL Workshop

เท้าความก่อนว่า SEG-GIRL คือคอมมิวนิตี้ที่รวมสตรีสายไอทีที่สนใจ Security ซึ่งจะมีงาน Workshop เป็นระยะๆ มา3ครั้ง ส่วนตัวก็ได้ไปร่วมงานมาแล้ว 2 ครั้งก็คือครั้งที่ 2 และ 3

SEG-GIRL #2: รอบนี้มาในธีม Risk Management ว่าด้วยการหาความเสี่ยงและการรับมือแก้ไขความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ในองค์กรของเรา อันนี้จะแนว Theory จ๋ามาก สาย Technical อาจจะแอบเซ็งหน่อยๆ

SEG-GIRL #3: ใครที่ผิดหวังจากรอบที่แล้วก็สามารถมาลงรอบนี้ได้เพราะมาในธีม Become a Pentester เย้ๆๆ ได้ลองแฮคลองเจาะระบบแล้ว เราจะได้VMมาเป็นKali ได้เรียนทฤษฎีนิดๆหน่อยๆแล้วก็ลองแฮคเลย ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากหา flag ที่ซ่อนอยู่ในตัว VM ที่ให้มา

SEC-GIRL #4 กำลังจะเปิดรับสมัครวันที่ 31 นี้ ก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาว่าขอให้ได้อีกรอบเถิด <! — UDT: ล่าสุดกดบัตรติดแล้วนะจ๊า เจอกันวันที่ 22 มิถุนาศกนี้ >


TOEIC is coming!!!

เมื่อใกล้ต้องจบไปทำงาน ก็ต้องเริ่มเตรียมเรซูเม่กัน อีกหนึ่งสิ่งที่ควรเตรียมไปด้วยนั่นก็คือ คะแนนการสอบความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษ หลายที่ Required หรือบางที่ไม่แต่ว่าสามารถใช้เพิ่มเงินเดือนได้ หรือพิจารณาเป็นพิเศษ

ซึ่งลาดกระบังก็ได้มีการจัดสอบ English Exit Exam นักศึกษาทุกคนต้องเข้าร่วมการสอบของสถาบันเพื่อจบการศึกษา แต่ช้าก่อน ถ้าท่านมีคะแนน TOEIC TOEFL IELTS ก็สามารถเอามายื่นแทนได้โดยไม่ต้องไปสอบกับสถาบัน

ค่ะ ก็เลยไปสอบ โดยมีเป้าหมายว่าอยากได้ 750+

ก็เลยไปลงคอร์ส TOEIC750+ ของ XChange ไปเรียนตอนปิดเทอมซัมเมอร์ ก่อนจะลงสนามจริงที่อโศก ข้อสอบไม่ยากมาก มีสองพาร์ทคือ Listening กับ Reading อันแรกต้องมีสติ ถ้าหลุดคือชิบหายเพราะเขาไม่เปิดซ้ำและมีเวลาตัดสินใจและกาแค่6วิเท่านั้น! พาร์ทสองคือ How to answer 100 choices within 75 minutes ที่แท้ทรู ใครอ่านไม่เร็ว บริหารเวลาไม่ดีก็แพ้ไป ทำไม่ทัน ซึ่งรอบแรกออกมาก็คื้อ… 715 คะแนน… วดฟ

เอาใหม่ ลงสอบครั้งที่ 2 รอบนี้สอบที่มอเลย เสียค่าใช้จ่าย 900 ถ้วน(สอบที่ศูนย์ใหญ่ 1500) ปรากฎแม่งเอ๊ย สติหลุดไปสามข้อแรก ผลออกมาคือบ้งกว่ารอบแรกอีกอีเวน สวนทางเว่อ รอบแรกฟังเยอะอ่านน้อย รอบนี้ฟังน้อยอ่านเยอะ พอค่ะ ไปรีอีกทีตอนปี4เลยละกัน เหน่ยแล้ว


Chrismas Gift: Playstation 4

เขียนไว้ละ เชิญรับชมดมกลิ่นขิงได้ที่ >

สรุปสถานะตอนนี้ มีเกมสิบกว่าเกม แต่เล่นจบไปไม่กี่เกม และมีแนวโน้มว่าจะซื้อมาดองเรื่อยๆ ฮือ //ล้องห้าย


3 Session Events within 1 Month

ในช่วงกลางเมษาถึงต้นพฤษภา เราได้มีโอกาสไปร่วมฟัง Session สาย IT ต่างๆ ไปรับชมบริษัทใหญ่ๆดังๆ ว่าเขาทำอะไรเด็ดๆออกมาบ้าง มีวิธีแนวคิดการทำงานยังไง

  • Virtual ASEAN Cisco Connect 2019
  • ExCEKMITL ExpSharing
  • Microsoft Future of Work Summit

ก็ถ้าไม่ขี้เกียจอาจจะเอามาเขียนลงบล็อกย้อนหลังเอานะ


Be prepared for Project in 4th year

หลังจากสอบคัดเลือกไปสหกิจก็ต้องพลาดโอกาสนั้นไปย่างน่าเสียดายเพราะสอบไม่ติด ทางเลือกสุดท้ายที่เหลือก็คือต้องทำโปรเจกต์จบ ส่วนตัวว่าคงไม่ทำสาย Security หรอก หาหัวข้อยาก คงไปไม่ WebApp ก็ Data แทน

สรุปแล้วหลังจากหาคู่เจค หาที่ปรึกษา ดูหัวข้อกันมาเป็นเวลานานก็มาลงที่โปรเจกต์หัวข้อ ระบบแนะนำ จ่ะ เกิดมหกรรมการฟาร์ม Data Analytic+Machine Learning แบบโคตร Crash Course ยิงกูดิ

พอละ มหกรรมโอ้วจีซั้สไครส์ตั่งต่างที่เกิดขึ้นในปีสาม ปีสี่ขอซัฟเฟ่อร์และโปรเจคจบกับหางานทำเถอะนุไหว้ล่ะ

-mrggaebsong (a.k.a #RE_PAIR)

#RE_PAIR’s Review: Johnwill Portable Monitor

Real Deploy: 1 Jul 2019

ว่างๆก็ลองไปอ่านเล่นๆดูนะต๊ะ

หลังจากที่ถอย PS4 เครื่องแรกมาเล่นได้ประมาณครึ่งปีแล้ว แต่จะเล่นเกมทีมันไม่ค่อยสะดวกเลย จะเล่นกับทีวีก็ติดที่บ้านชอบดูละคร ไม่อยากรบกวน พอจะเปิดเครื่องไว้แล้วรีโมตมา เน็ตบ้านก็กากเกินจนหงุดหงิด

บวกกับช่วงนี้ต้องหิ้วโน้ตบุ๊คไปทำงานนอกสถานที่เป็นประจำ แล้วไอ้งานที่เราทำมันใช้แค่จอเดียวไม่พอสำหรับ multi-tasking น่ะสิ ก็เลยมีความคิดที่จะอยากได้จอเสริมเป็นของตัวเอง ก็เลยอ่ะ ตัดสินใจเก็บเงินซื้อจอเพื่อตอบโจทย์ปัญหาทั้งสองข้อที่กล่าวมา เลยเกิด Requirement เหล่านี้

  1. เป็นจอที่พกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก
  2. สามารถใช้ร่วมกับทุกอุปกรณ์ที่รองรับ HDMI (โดยเฉพาะอย่างยิ่งโน้ตบุ๊คและ PS4)
  3. ราคาไม่โหดเกินไป ไม่เกิน 5000 บาท

ตอนแรกก็ไปเจอ HORI แต่ราคาสูงถึง 8000 กว่าบาท แถมรองรับภาพได้สูงสุดแค่ 720p!!! พอไปหาเจ้าอื่นก็พบว่ามีแต่เท่านี้ ก็เลยทำใจอ่ะ เอาก็เอาวะ เริ่มเก็บเงิน จนเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนก็ไปเตะตาเจ้าสิ่งนี้เข้า

3990 บาท!!! ถูกกว่าตั้งเกือบครึ่ง!!!!

เอาล่ะ กุปักอันนี้แน่นอน

ตอนนั้นเก็บเงินได้ประมาณนั้นพอดี บวกกับทางร้านมีดีลลดราคาพอดี เลยได้ซื้อเจ้าจอนี้มาด้วยราคา 3817 บาทถ้วน


It’s time to review

WARNINGการรีวิวต่อไปนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้รับเงินค่าโฆษณาค่ารีวิวหรือเงินฟาดจากใครก็ตามแม้แต่แดงเดียว รีวิวเพราะอยากอวดของ จบนะ

PS. ภาพบางภาพอาจไม่สวยเท่าความเป็นจริง เนื่องจากคุณภาพกล้องและตอนพอร์ตมาลงอีเว็บนี้อีกที

Specification

ตรงนี้ก็จะเป็นสเป็คคร่าวๆ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ตั่งต่างๆของสินค้า

  • Product Name: Johnwill™ Portable Monitor
  • หน้าจอ 13.3 นิ้ว หนัก 0.9 กิโลกรัม
  • มีพอร์ต Micro HDMI 2 พอร์ต, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, Micro USB Port, AC Adapter 110A 22W
  • Dual Speaker 1.5W
  • รองรับทุกอุปกรณ์ที่มีเอาท์พุตเป็น HDMI (PC, Laptop, PS4, PS3, Nintendo Switch, Smartphone, Chromecast, กล่องทีวี, etc..)
  • Resolution: 1920×1080 (FullHD 1080i รองรับ HDR)
  • Refresh Rate: 60Hz
  • อัตราความคมชัด: 1100:1
  • ความสว่างเฉลี่ย: 320cd / m ^ 2

แกะกล่องรีวิว

ได้เวลาแกะกล่อง ว่าแล้วก็แงะเลย

ของในกล่องประกอบด้วย

  1. Johnwill™ Portable Monitor 13.3″
  2. 110A 22W AC Adapter
  3. HDMI to Mini HDMI Connector
  4. HDMI to Mini HDMI Converter
Front View: หน้าจอกว้าง 13.3 พร้อมโลโก้ Johnwill
Side View: (เรียงจากบนลงล่าง) Mini HDMI x 2, Audio Jack, Mini USB, AC Adapter
Back View: ปุ่ม Option ตั้งค่าหน้าจอ, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ลำโพงคู่

ปุ่ม Option สามารถปรับแต่งจอได้หลายแบบ ตั้งแต่ความสว่าง จัดหน้าจอ ปรับสี DDCCI HDR Input Audio etc.

เวลาพับจอก็พับ Cover มาแบบนี้ได้เลย พกง่าย

การต่อไฟเลี้ยง

การต่อไฟเลี้ยงสามารถทำได้ 2 ทาง คือต่อตรงจากปลั๊กเสียบได้เลย หรือเสียบสาย USB จากสายชาร์ตมือถือ, Powerbank, PC หรือ PS4 ก็ได้ (แต่ 2 อย่างหลังต้องเปิดเครื่องก่อนนะ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีไฟไปเลี้ยงจอ)


Monitor Testing — Laptop

ต่อสาย HDMI เข้าที่พอร์ตที่โน้ตบุ๊ค ปรับ Display Setting นิดหน่อยก็จะออกมาประมาณนี้

ต่อกับโน้ตบุ๊คเรียบร้อยแล้ว
ทำงานแยกสองจอได้สบายๆ

ถึงจอจะถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเกมมิ่งคอนโซล แต่สามารถใช้ร่วมกับโน้ตบุ๊คได้เป็นอย่างดี ทำงานแยกสองจอแบบสบายๆชิวๆ ลากไปลากมา เปิดจอนึงไว้ dev อีกจอไว้เปิดเน็ตดูยูทูปจุกๆ

ภาพชัดประหนึ่งดูทีวี

ส่วนการเปิดกราฟิกหรือมีเดียจัดได้ว่าภาพสีสวย คมชัดละเอียดเทียบเท่าจอทั่วไปที่รองรับภาพระดับ FullHD 1080 ได้เป็นอย่างดี

ส่วนลำโพง Build-in เสียงอยู่ในระดับดี กระหึ่มสะใจ (ต้องแอบลดเสียงเพราะดังมาก) สามารถเลือก Output ได้ว่าจะให้เสียงออกทางไหน คอม จอ หรือจะต่อหูฟังก็ได้

Monitor Testing — PS4

เทสกับคอมเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไฮไลต์ของช่วงนี้ กับการเทสกับอุปกรณ์ชูโรงกับน้องจอนอย่าง PS4 ของรักของข้าซะที

จริงๆร้านก็การันตีมาแล้วแหละว่าน้องจอนใช้งานได้ดีบน PS4 แต่ก็สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น อยากรู้เองว่าภาพจะออกมาสวยขนาดไหน

ขออภัยในความภาพไม่ชัด อันนี้ความผีของเว็บที่ทรานภาพ jpeg กุออกมาเป็นแบบนี้

ถามว่าภาพสวยชัดสมคำร่ำลือจากทางร้านมั้ย สรุปได้สั้นๆว่า

เหมือนยกเอาทีวีมาย่อส่วนบนวางตั้งบนเครื่องคอนโซล

ทั้งภาพทั้งเสียงคือสวยคมชัดมากกกกกก ลำโพงเสียงกระหึ่ม(แต่ไม่ Surround) เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมได้สะใจ ส่วนด้านภาพสามารถรองรับความละเอียดสูงสุดตามที่เครื่องให้มาพอดี(1080p) ไม่กระตุกไม่แล็ค เรียกได้ว่ารับชมภาพแบบฟินๆ เล่นเกมแบบสมจริงในระยะใกล้แบบไม่ต้องง้อทีวีเลยทีเดียว คือมันดีย์มากๆ

แค่เปิดอินโทรมาก็ว้าวแล้ว
ภาพสวยลื่นๆ ไม่กระตุกแต่อย่างใด

ข้าพเจ้าถูกใจสิ่งนี้มากๆ ถูกใจโคตรๆ

ทีนี้ก็คือไม่ต้องห่วงเรื่องไปนอกสถานที่แล้ว พับจอให้กระเป๋า หิ้วไปพร้อมคอนโซลหรือโน้ตบุ๊คก็ได้ จะทำงานจะเล่นเกมก็เปิดจอออกมาต่อสายทำต่อสบายๆ แถมประหยัดพื้นที่ไม่ต้องวางจอใหญ่ๆให้เกะกะ

ข้อเสีย

ของทุกชิ้นบนโลก ล้วนมีข้อดีข้อเสียหมด อวยข้อดีมาเยอะแล้ว ก็เจอข้อเสียนิดหน่อยแต่ก็ยอมรับได้

  1. แอบหนักนิดหน่อยเวลาพก เทียบเคียงโน้ตบุ๊คบางรุ่นได้ (0.9kg)
  2. ไม่มี manual มาให้เลย ต้องงมปุ่มงมพอร์ตเอาเอง งมพอร์ตไม่เท่าไหร่เพราะมีสกรีนบอกที่ตัวจอ แต่ปุ่มคือต้องงมเองล้วนๆ ไม่มีอะไรบอกเลย หรือบอกแล้วแต่โดน cover ปิดแล้วถอดไม่ได้

Summary

จัดว่าคุ้มราคา ต่อได้ทั้ง Laptop and PS4 ภาพสวยละเอียดคมชัด ลำโพงเสียงกระหึ่มสะใจ พกไปไหนก็ได้ชิวๆ

จะหาว่าอวยก็ได้นะ ใช่ค่ะ อวยเพราะของเค้าดีจริง

ใครสายออกไปทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ก็แนะนำน้องจอนวิลไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันนะคะ ราคาถือว่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับคุณภาพ(จากที่ลองใช้) ถ้ากำลังมองหาจอเล่นเกมพกพาแต่ราคาไม่แรงก็ไปตำจ่ะ!!!

https://shopee.co.th/product/49128056/2148044444

มาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอจบการรีวิวไว้แต่เท่านี้ ขอตัวไปเล่นเกมต่อ ข่อมค่ะ

-mrggaebsong (a.k.a #RE_PAIR)

Merry Christmas w/ PS4 Bundle

Real deploy: 22 Dec 2018

จงหาจุดประสงค์ของการเขียนบล็อคนี้ คำตอบคือไม่มี เขียนเพราะความอัดอั้นล้วนๆ

อารัมภบท Part ใครขี้เกียจอ่านแนะนำให้ข้าม

สืบเนื่องจากว่าเดิมทีเป็นสายเล่นเกมในโทรศัพท์ (อยากสาย PC แต่สเปคโน้ตบุ๊คกากเกินกว่าจะเล่นได้) ไม่มีความคิดจะผันไปสายคอนโซลเลย จนกระทั่งไปเจอ

พี่เอกแคสดีทรอยต์!!!

ดูจบเหมือนมีอะไรมาสะกิดต่อม เพราะส่วนตัวชอบเกมแนวนี้มาก ประกอบกับเปิดเทอมแล้ว เพื่อนให้ยืมแผ่นเกมเลยไปอาศัยเล่นที่แล็บ และ 2 เดือนผ่านไป เกมสไปเดอร์แมนออก ชอบมากอยากเล่น ก้าวตีนเข้าสู่สายคอนโซลหนึ่งก้าว หลังจากนั้นจึงเกิดแผนการ

…เก็บเงินซื้อ… //เพราะพ่อแม่ไม่ซื้อให้แน่นอน ขนาดเก็บเงินเองยังบ่นหูฉีก

เริ่มจากการสะสมเงินเหลือแต่ละวันทีละเล็กทีละน้อย บวกกับเงินจากทำงานพิเศษและเงินจากไปแข่ง โดยตั้งเป้าเป็น 13800 บาท (PS4 Slim + Spiderman)

ส่วนตัวเลือกตัว Slim เพราะไม่ได้เป็นคนเล่นเกมจัดและเฉยๆมากกับการเสพภาพสวยๆ เน้นเล่นเอามันส์ เลยไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องจัดตัว PRO

จนต้นเดือนพฤศจิกา ทาง SIE ประกาศ Bundle ชุดสุดท้ายของปี PS4 Slim “HITS” Bundle ซึ่ง 1 ใน 3 เกมที่มีคือ “Detroit: Become Human” สมทบด้วยเกมดังแห่งปีอย่าง God of War และเกมเก่าแต่เก๋าจนต้องเอามา Remastered อย่าง The Last of Us ตอนชุดนี้ออกมามองไม่เห็นคำอื่นเลยนอกจากคำว่า “คุ้ม”

Playstation 4 Slim “HITS” Bundle

เอาละค่ะ ปักกันที่ชุดนี้ ปลายปีเจอกันจ้า

ปักไว้รอสอยตอนเดือนธันวาเพราะเอาเซลท้ายปี อ่ะ เก็บตังมาเรื่อยๆ จนถึงกลางเดือนธันวา แน่นอนช่วงเซล ทั้ง NADZ X’MAS Sale และทาง Official ก็ประกาศ 12 Days Special นี่ถึงกับลุกขึ้นกรี๊ดเลยจ่ะ เพราะ

Playstation 12 Days Special ลดราคาคอนโซลส่งท้ายปี

ไม่ต้องพูดอะไรแร้ว เท่ากับว่างบที่ตั้งไว้จะเหลืออย่างน้อย 2000 ซึ่งเกินส่วนนี้จะเก็บไปลงที่ Uncharted ทั้งเซ็ตเพราะลดราคาค่อนข้างโหดพอตัว


เข้าเรื่องซะที

ในส่วนของตรงนี้ไม่มีอะไร ไร้สาระเหมือนเดิม แค่แกะกล่องรีวิวทุกอย่างที่ซื้อมาแค่นั้นแหละ

Let’s get it!!!!

ในส่วนของเซ็ต Playstation 4 ที่ซื้อมาก็จะมี

  • Playstation 4 Slim “HITS Bundle”
  • Marvel’s Spider-man
  • Uncharted: Nathan Drake’s Collection
  • Uncharted Dual Pack: Uncharted 4 & Uncharted: The Lost Legacy

ดูจากของที่สอยมาคือสอยทีเดียวกะเล่นยาวไม่ต้องซื้อเกมอื่นเพิ่ม เอาที่มีอยู่เล่นให้หมดก่อน (รวมค่าเสียหายจากโปรครั้งนี้ราวๆ 13k บาท)

Playstation 4 “HITS” Bundle กล่องก็จะหน้าตาประมาณนี้

เริ่มที่ Playstation 4 “HITS” Bundle ซื้อที่ Banana IT สาขาซีคอนเมื่อบ่ายนี้สดๆร้อนๆ ใช้โปร 12 Days Special สอยมาในราคา 9990 บาท(บอกเลยว่าเจิมโปรวันแรก Perfect Timing จังหวะเป๊ะมาก) โดยในกล่องก็จะมี

  • PlayStation 4 (Jet Black) ความจุ 500GB HDD x 1 (CUH-2218AB01)
  • DUALSHOCK 4 คอนโทรลเลอร์ไร้สาย (Jet Black) x 1
  • The Last of Us™ Remastered(Digital), Detroit: Become Human™(Disk), God of War™(Disk)
  • Playstation Plus Voucher แบบ 3 เดือน
ด้านหลังกล่อง โชว์รายละเอียดเกมที่มากับเครื่อง
แกะกล่องออกมาก็จะเจอกล่องคอนโซลข้างในอีกชั้น
ของทั้งหมดในกล่อง
เกมบันเดิ้ล 3 เกมในกล่องเดียว

ในส่วนของเกมที่ติดมากับ Bundle เกม Detroit กับ God of War จะเป็นแผ่น CD 2 แผ่นในกล่องเดียว ส่วน The Last of Us เนื่องจากเป็น Digital Download เลยมาในรูปแบบการ์ดโค้ดพร้อม Voucher PS Plus 2 โค้ดใน 1 ใบ

สาย Adapter ตั่งต่าง: ปลั๊กเสียบ, USB, HDMI, หูฟัง
ตัวเครื่องคอนโซลพร้อมจอย DualShock 4 (วางผิดด้วยดันวางคว่ำเครื่อง)
Playstation Shoe Bag ที่ทางร้านให้เป็นของแถม เอาไว้ใส่จอยหิ้วเก๋ๆ

จบการรีวิวในส่วนของคอนโซลแล้ว มาพูดถึงเกมที่ซื้อแยกมาบ้าง

Marvel’s Spider-man

ในส่วนของเกม Marvel Spider-Man ตัวนี้ซื้อจากร้าน NADZ เมื่อวาน ใช้โปร NADZ X-MAS Sale ซื้อมาในราคา 1490 บาท (จาก 1890 บาท)

Uncharted Series

ต่อมาเป็น Uncherted Series จัดเพราะเกมดีด้วย(และเงินเหลือจากโปรลดต่างๆ) จัดมาซะเอาให้ครบทุกภาคเลยทีเดียว

  • Uncharted: The Nathan Drake’s Collection ใช้โปร NADZ เหมือนกันจาก 890 เหลือ 499 บาท ซึ่งตัวนี้ซื้อ 1 ได้ถึง 3 เพราะเป็นการเอา Uncharted ตั้งแต่ภาค 1–3 มา Remastered ใหม่ลง PS4 แล้วยัดใส่ลงในแผ่นเดียว เวลาใส่แผ่นก็เลือกเอาว่าจะเล่นภาคไหน (ซึ่งกุหลังหักต่อหน้าต่อตาค่ะ ซื้อแผ่นตอนบ่าย และต่อมาใน PS Store ลดเหลือ 148 บาทในเย็นวันเดียวกัน)
  • Uncharted: Dual Pack อันนี้คือไปสืบมาที่ร้าน NADZ สาขาเซนเวิล ปรากฏหมดจ่ะ เลยบึ่งไปที่สาขาเทอมินอล อิสัด หมดอีก หมดยันเซนลาด ตอนนั้นกุนี้หมดหวังแล้ว ในจังหวะที่กำลังจะเปลี่ยนใจไป Digital พี่คนขายเสนอมาว่ามีมือสองแบบ Dual Pack เหมือนพบทางสว่าง สอยมาอย่างไม่ลังเล ในราคา 1000 บาทถ้วน ในตัวแพ็คก็จะมี Uncharted 4 กับภาค The Lost Legacy ถ้าวัดระดับความคุ้มก็คุ้มระดับนึงเพราะเหมือนได้ตัวหลังมา 500 บาทด้วย(ภาคนี้เป็นภาคเดียวในตระกูล UC ที่ไม่ลด)

กลายเป็นได้ Uncharted ครบทุกซีรี่ย์มาแบบงงๆ เล่นจบทุกภาคคือไม่ต้องทำอะไรเลยจ่ะ ไม่ต้องซื้อเกมอื่นอีกยาว (ก็รวมๆแล้ว Spidey(1) + Bundles(3) + Uncharted(5) = 9 เกม… ) //ตัดภาพมาที่ Wishlist ใน PS Store… — หยุดก่อนอานนท์ เล่นที่มีอยู่ในครบก่อน

เอาเป็นว่ามาดูของทั้งหมดตอนนี้ดีกว่า

ต่อคอนโซลเข้า TV เรียบร้อย พร้อมลุย! //ขอชาร์จจอยก่อนนะ

หลังจากแกะกล่อง ชื่นชมและสรรเสริญผลงานของตัวเอง(และโดนบ่นอีกเล็กน้อย) ก็ได้เวลาเซ็ตเครื่องเซ็ตจอย อัพเดทเฟิร์มแวร์ จัดโฟลเดอร์เกม กรอกโค้ดตั่งต่างให้เรียบร้อย(แต่ยังไม่ PS Plus นะ ขอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ก่อน) และเปิดประเดิมเกมแรกที่ The Last of Us เสร็จแล้วก็จัดการลง Add-on อย่าง Spotify, Netflix, Youtube และจิปาถะ

หน้าตาหลังปรับแต่งอะไรตั่งต่างเรียบร้อย
ธีมฟ้าไม่สะใจ เปลี่ยนเป็นธีมใหม่ล่าสุดจาก The Last of Us Part II: Burning Car เลยทีเดียว

ด้วยความไม่ชินมือกับจอย บอกเลยว่าเดินสาย Melee จ่ะ บวกเก่งเหรอ หึ ยิงไม่โดน

สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะเล่นดีมั้ย ถ้าแน่ใจแล้วก็ซื้อเถอะ กว่า PS5 จะออกถึงจะในอีกไม่กี่ปีแต่ก็นานไปสำหรับการรอ เพราะฉะนั้น ซื้อก่อนได้เล่นก่อนนะเออ //แต่ดูงบตัวเองดีๆล่ะ อย่าเปย์จนเข้าเนื้อเด้อ

อ่ะ บ่นมาเยอะละ ขอตัวไปเล่นเกมต่อดีกว่า ขอจบการบ่นลงบล็อคแต่เพียงเท่านี้

ปล. โปร 12 Day Special ขยายโปรถึง 6 มกราแล้วนะจ๊ะ บอกบุน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://asia.playstation.com/th-th/

จากไปด้วย Screenshot ที่แคปเองกับมือจาก The Last of Us

ออกแบบเว็บแบบนี้ด้วย WordPress.com
เริ่มต้น